เมนู

ดังนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นเจ้าของธรรม
ทรงยับยั้งก่อน ขอได้โปรดทรงเป็นผู้ขวนขวายน้อย ทรงประกอบเนือง ๆ
แต่สุขวิหารธรรมในปัจจุบันอยู่เถิด พวกข้าพระองค์ยังจักปรากฏอยู่ด้วยการ
ขัดใจ ทะเลาะ แก่งแย่ง วิวาทกันเช่นนี้.
[442] พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะภิกษุเหล่านั้นแม้ในวาระที่ 3
ดังนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อย่าเลย อย่าขัดใจ อย่าทะเลาะ อย่าแก่งแย่ง
อย่าวิวาทกันเลย ภิกษุรูปนั้นก็ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าแม้ในวาระที่ 3
ดังนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นเจ้าของธรรม
ทรงยับยั้งก่อน ขอได้โปรดทรงเป็นผู้ขวนขวายน้อย ทรงประกอบเนือง ๆ
แต่สุขวิหารธรรมในปัจจุบันอยู่เถิด พวกข้าพระองค์ยังจักปรากฏอยู่ด้วยการ
ขัดใจ ทะเลาะแก่งแย่ง วิวาทกันเช่นนี้.

ว่าด้วยภาษิตคาถา


[443] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงนุ่งสบง ทรงบาตร
จีวรเสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังกรุงโกสัมพีในเวลาเช้า ครั้นเสด็จกลับจาก
บิณฑบาต ภายหลังเวลาพระกระยาหารแล้ว ทรงเก็บเสนาสนะ กำลังประทับ
ยืนอยู่นั่นแหละ ได้ตรัสพระคาถา ดังนี้ว่า
ภิกษุมีเสียงดังเสมอกัน ไม่มีใคร ๆ
สำคัญตัวว่าเป็นพาล เมื่อสงฆ์แตกกัน
ต่างก็มิได้สำคัญตัวกันเองให้ยิ่ง พวกที่
เป็นบัณฑิต ก็พากันหลงลืม มีปากพูด
ก็มีแต่ตำพูดเป็นอารมณ์พูดไป เท่าที่
ปรารถนาแสดงฝีปาก ไม่รู้เหตุที่ตนนำไป