เมนู

พวกหนึ่งที่มีทิฐิชอบ ฯลฯ มีสมาธิชอบ ถ้าแม้ทำความหวังแล้วประพฤติ
พรหมจรรย์ เขาสามารถบรรลุผล ถ้าแม้ทำความไม่หวังแล้ว... ถ้าแม้ทำทั้ง
ความหวังและความไม่หวังแล้ว... ถ้าแม้ทำความหวังก็มิใช่ความไม่หวังก็มิใช่
แล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็สามารถบรรลุผล นั่นเพราะเหตุไร ดูก่อน
ภูมิชะ เพราะเขาสามารถบรรลุผลได้โดยอุบายแยบคาย.

ว่าด้วยบุรุษต้องการเนยข้น


[417] ดูก่อนภูมิชะ เปรียบเหมือนบุรุษต้องการเนยข้น แสวงหา
เนยข้นจึงเที่ยวเสาะหาเนยข้น ใส่นมส้มลงในอ่าง คนเข้ากับนมข้น ถ้าแม้ทำ
ความหวังแล้วใส่นมส้มลงในอ่าง คนเข้ากับนมข้น เขาก็สามารถได้เนยข้น
ถ้าแม้ทำความไม่หวังแล้ว ... ถ้าแม้ทำทั้งความหวังและความไม่หวังแล้ว. ถ้า
แม้ทำความหวังก็มิใช่ความไม่หวังก็มิใช่แล้วใส่นมส้มลงในอ่าง คนเข้ากับนม-
ข้น เขาก็สามารถได้เนยข้น นั่น เพราะเหตุไร ดูก่อนภูมิชะ เพราะเขาสามารถ
ได้เนยข้นโดยวิธีแยบคาย ฉันใด ดูก่อนภูมิชะ ฉันนั้นเหมือนกันแล สมณะ
หรือพราหมณ์พวกใดพวกหนึ่งที่มีทิฐิชอบ ฯลฯ มีสมาธิชอบ ถ้าแม้ทำความ
หวังแล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็สามารถบรรลุผล ถ้าแม้ทำความไม่หวัง
แล้ว... ถ้าแม้ทำทั้งความหวังและความไม่หวังแล้ว ... ถ้าแม้ทำความหวังก็มิใช่
ความไม่หวังก็มิใช่แล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาสามารถบรรลุผล นั่นเพราะ
เหตุไร ดูก่อนภูมิชะ เพราะเขาสามารถบรรลุผลได้โดยอุบายแยบคาย.
[418] ดูก่อนภูมิชะ เปรียบเหมือนบุรุษต้องการไฟ แสวงหาไฟ
จึงเที่ยวเสาะหาไฟ เอาไม้แห้งเกราะมาทำไม้สีไฟ สีกัน ไป ถ้าแม้ทำความหวัง
แล้วเอาไม้แห้งเกราะมาทำไม้สีไฟ สีกัน ไป เขาก็สามารถได้ไฟ ถ้าแม้ทำความ
ไม่หวังแล้ว ... ถ้าแม้ทำทั้งความหวังและความไม่หวังแล้ว... ถ้าแม้ทำความ

หวังก็มิใช่ความไม่หวังก็มิใช่แล้วเอาไม้แห้งเกราะมาทำไม้สีไฟ สีกันไป เขาก็
สามารถได้ไฟ นั่นเพราะเหตุไร ดูก่อนภูมิชะ เพราะเขาสามารถได้ไฟ โดย
วิธีแยบคาย ฉันใด ดูก่อนภูมิชะ ฉันนั้นเหมือนกันแล สมณะหรือ
พราหมณ์พวกใดพวกหนึ่งที่มีทิฐิชอบ ฯลฯ มีสมาธิชอบ ถ้าแม้ทำความ
หวังแล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็สามารถบรรลุผล ถ้าแม้ทำความไม่หวัง
แล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็สามารถบรรลุผล ถ้าแม้ทำทั้งความหวังและ
ความไม่หวังแล้วพระพฤติพรหมจรรย์ เขาก็สามารถบรรลุผล ถ้าแม้ทำความ
หวังก็มิใช่ความไม่หวังก็มิใช่แล้วประพฤติพรหมจรรย์ เขาก็สามารถบรรลุผล
นั่นเพราะเหตุไร ดูก่อนภูมิชะ เพราะเขาสามารถบรรลุผลได้โดยอุบายแยบคาย.

ว่าด้วยการชื่นชมพระภาษิต


[419] ดูก่อนภูมิชะ ถ้าอุปมา 4 ข้อนี้ จะพึงแจ่มแจ้งแก่พระราช -
กุมารชยเสนะ พระราชกุมารชยเสนะจะพึงเลื่อมใสเธอ และเลื่อมใสแล้ว จะ
พึงทำอาการของบุคคลผู้เลื่อมใสต่อเธออย่างไม่น่าอัศจรรย์.
ท่านพระภูมิชะกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญก็อุปมา 4 ข้อนี้จัก
แจ่มแจ้งกะข้าพระองค์ต่อพระราชกุมารชยเสนะได้แต่ที่ไหน เพราะอุปมาไม่น่า
อัศจรรย์ ข้าพระองค์ไม่เคยได้สดับมาในก่อนเหมือนที่ได้สดับต่อพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระภาษิตนี้แล้ว ท่านพระภูมิชะจึงชื่นชม
ยินดีพระภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล.
จบ ภูมิชสูตรที่ 6