เมนู

ภิ. ไม่ได้เลย พระพุทธเจ้าข้า.
พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุไร ๆ ก็ตาม
เจริญกายคตาสติแล้ว ทำให้มากแล้ว มารย่อมไม่ได้ช่อง ไม่ได้อารมณ์.

เปรียบเทียบผู้เจริญกายคตาสติเหมือนหม้อน้ำเต็ม



[313] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนหม้อน้ำ มีน้ำเต็มเปี่ยม
เสมอขอบปาก พอที่กาจะดื่มกินได้ อันเขาตั้งไว้บนเชิงรอง. จึงมีบุรุษมาถือเอา
เป็นเครื่องตักน้ำ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ?
บุรุษนั้นจะพึงได้น้ำเก็บไว้ บ้างไหม ?
ภิ. ไม่ได้เลย พระพุทธเจ้าข้า.
พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุไร ๆ ก็ตาม
เจริญกายคตาสติแล้ว ทำให้มากแล้ว มารย่อมไม่ได้ช่อง ไม่ได้อารมณ์.
[314] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไร ๆ ก็ตาม เจริญกายคตาสติ
แล้ว ทำให้มากแล้ว เธอน้อมจิตไปในธรรมใด ๆ ที่ควรทำให้แจ้งด้วยอภิญญา
จะถึงความเป็นผู้สามารถในธรรมนั้น ๆ นั่นแหละ เพราะการทำให้แจ้งด้วย
อภิญญาได้ ในเมื่อมีสติเป็นเหตุ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนหม้อน้ำ
มีน้ำเต็มเปี่ยมเสมอขอบปาก พอที่กาจะดื่มกินได้ อันเขาตั้งไว้บนเชิงรอง
บุรุษมีกำลังมายังหม้อน้ำนั้นโดยทางใด ๆ จะพึงมาถึงน้ำโดยทางนั้น ๆ ได้
หรือ ?
ภิ. ได้ พระพุทธเจ้าข้า.
พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุไร ๆ ก็ตาม
เจริญกายคตาสติแล้ว ทำให้มากแล้ว เธอน้อมจิตไปในธรรมใด ๆ ที่ควรทำ
ให้แจ้งด้วยอภิญญา จะถึงความเป็นผู้สามารถในธรรมนั้น ๆ นั่นแหละ เพราะ
การทำให้แจ้งด้วยอภิญญาได้ ในเมื่อมีสติเป็นเหตุ.

เปรียบเทียบผู้เจริญกายคตาสติเหมือนสระโบกขรณี



[315] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนสระโบกขรณีสี่เหลี่ยมใน
ภูมิภาคที่ราบ เขาพูนคันไว้ มีน้ำเต็มเปี่ยมเสมอขอบปาก พอที่กาจะดื่มกินได้
บุรุษมีกำลังเจาะคันสระโบกขรณีนั้นทางด้านใด ๆ น้ำจะพึงไหลมาทางด้าน
นั้น ๆ ได้หรือ ?
ภิ. ไหลมาได้ พระพุทธเจ้าข้า.
พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุไร ๆ ก็ตาม
เจริญกายคตาสติแล้ว ทำให้มากแล้ว เธอน้อมจิตไปในธรรมใด ๆ ที่ควรทำ
ให้แจ้งด้วยอภิญญา จะถึงความเป็นผู้สามารถในธรรมนั้น ๆ นั่นแหละ เพราะ
การกระทำให้แจ้งด้วยอภิญญาได้ ในเมื่อมีสติเป็นเหตุ.

เปรียบเทียบผู้เจริญกายคตาสติเหมือนสารถีขับรถ



[316] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนรถม้าอาชาไนยเขาเทียม
ม้าแล้ว มีแส้เสียบไว้ในที่ระหว่างม้าทั้งสองจอดอยู่บนพื้นที่เรียบตรงทางใหญ่ 4
แยก. นายสารถีผู้ฝึกม้า เป็นอาจารย์ขับขี่ผู้ฉลาด ขึ้นรถนั้นแล้ว มือซ้าย
จับสายบังเหียน มือขวาจับแส้ ขับรถไปยังที่ปรารถนาได้ ฉันใด ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุไร ๆ ก็ตาม เจริญกายคตาสติแล้ว
ทำให้มากแล้ว เธอย่อมน้อมจิตไปในธรรมใด ๆ ที่ควรทำให้แจ้งด้วยอภิญญา
จะถึงความเป็นผู้สามารถในธรรมนั้น ๆ นั่นแหละ เพราะการกระทำให้แจ้ง
ด้วยอภิญญาได้ ในเมื่อมีสติเป็นเหตุ.