เมนู

ยังเป็นสาสวะ เป็นส่วนแห่งบุญ ให้ผลแก่ขันธ์ อย่าง 1 สัมมาอาชีวะ
ที่เป็นอริยะเป็นอนาสวะ
เป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรคอย่าง 1.

สัมมาอาชีวะที่เป็นสาสวะ



[277] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาอาชีวะที่ยังเป็นสาสวะ
เป็นส่วนแห่งบุญ ให้ผลแก่ขันธ์ เป็นไฉน ? คือ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้
ย่อมละมิจฉาอาชีวะ เลี้ยงชีพด้วยสัมมาอาชีวะ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้ สัม-
มาอาชีวะที่ยังเป็นสาสวะ
เป็นส่วนแห่งบุญ ให้ผลแก่ขันธ์.

สัมมาอาชีวะที่เป็นอนาสวะ



[278] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาอาชีวะที่เป็นอริยะเป็น
อนาสวะ
เป็นโลกุตระ เป็นองค์มรรค เป็นไฉน ? ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ความงด 1 ความเว้น 1 เจตนางดเว้นจากมิจฉาอาชีวะ 1 ของ
ภิกษุผู้มีจิตไกลข้าศึก มีจิตหาอาสวะมิได้ พรั่งพร้อมด้วยอริยมรรค เจริญ
อริยมรรคอยู่ นี้แลคือ สัมมาอาชีวะที่เป็นนอริยะเป็นอนาสวะ เป็น
โลกุตระ เป็นองค์มรรค.
ภิกษุนั้นย่อมพยายามเพื่อละมิจฉาอาชีวะ เพื่อบรรลุสัมมาอาชีวะ
ความพยายามของเธอนั้น เป็นสัมมาวายามะ.
ภิกษุนั้นมีสติละมิจฉาอาชีวะ มีสติบรรลุสัมมาอาชีวะอยู่ สติของเธอ
นั้น เป็นสัมมาสติ.

ธรรมะที่ห้อมล้อมสัมมาอาชีวะ



ด้วยอาการนี้ ธรรม 3 ประการนี้ คือสัมมาทิฏฐิ 1 สัมมา-
วายามะ 1 สัมมาสติ 1
ย่อมห้อมล้อม เป็นไปตามสัมมาอาชีวะของภิกษุ
นั้น.