เมนู

พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั้นได้อยู่ในภูเขานั้นมาแต่กาลครั้ง
นั้น. และแต่ครั้งนั้นมา ภูเขานั้นจึงได้เกิดชื่อว่า อิสิคิลิ.

พระนามของพระปัจเจกพุทธเจ้า



บทว่า เย สตฺตสารา ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสชื่อของ
พระปัจเจกพุทธเจ้า 13 พระองค์คือ พระอริฏฐะ พระอุปริฏฐะ พระ-
ตัคครสิขี พระยสัสสี พระสุทัสสนะ พระปิยทัสสี พระคันธาระ
พระปิณโฑละ พระอุปาสภะ พระนิถะ พระตถะ พระสุตวา
พระภาวิตัตตะ
บัดนี้ เมื่อจะตรัสบอกชื่อของพระปัจเจกพุทธเจ้าเหล่านั้น
กับชื่อของพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์อื่น ด้วยการผูกเป็นคาถา จึงตรัสคำเป็น
ต้นว่า เย สตุตสารา ดังนี้.
ในพระนามเหล่านั้น พระนามว่า สตฺตสารา แปลว่า เป็นหลัก
ของสัตว์ทั้งหลาย. พระนามว่า. อนีฆา แปลว่า ไม่มีทุกข์ พระนามว่า
นิราสา แปลว่า ไม่มีความอยาก.
พระนามว่า เทฺว ชาลิโน ความว่า พระนามว่า ชาลีมี 2 องค์
คือ จุลลชาลี มหาชาลี. แม้คำว่า สันตจิตตะ ก็เป็นพระนามของพระ-
ปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง.
ข้อว่า ปสฺสี ชหิ อุปธึ ทุกขมูลํ นี้เป็นคำสรรเสริญพระปัจเจก-
พุทธเจ้าองค์นั้นว่า พระปัจเจกพุทธเจ้าองค์นั้นทรงพระนามว่า ปัสสี ก็
เพราะพระองค์ทรงละอุปธิอันเป็นรากเหง้าแห่งทุกข์ได้แล้ว.
แม้คำว่า อปราชิตะ ก็เป็นชื่อของพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง
เหมือนกัน. ท่านทั้ง 5 เหล่านี้ คือ พระสัตถา พระปวัตตา พระสร-
ภังคะ พระโลมหังสะ พระอุจจังคมายะ
ท่านทั้ง 3 แม้เหล่านี้ คือ
พระอสิตะ พระอนาสวะ พระอโนมยะ.