เมนู

พระพุทธเจ้าไม่อุบัติในจักรวาลอื่น



ไม่มีพระสูตรที่ว่า "ก็ในเขตทั้ง 3 เหล่านี้ เว้นจักรวาลนี้แล้วพระ-
พุทธเจ้าทั้งหลายย่อมเสด็จอุบัติในจักรวาลอื่น " ดังนี้ มีแต่พระสูตรว่า พระ-
พุทธเจ้าทั้งหลายไม่เสด็จอุบัติในจักรวาลอื่น. ปิฎก 3 คือ พระวินัยปิฎก
พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก การสังคายนาปิฎก 3 ครั้ง คือการสัง-
คายนาของพระมหากัสสปเถระ การสังคายนาของพระยศเถระ การสังคายนา
ของพระโมคคัลลีบุตรเถรแล. ในพุทธพจน์คือ พระไตรปิฎกที่ยกขึ้นสังคาย.
นา 3 ครั้งเหล่านี้ ไม่มีสูตรว่า " พ้นจักรวาลนี้ พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงบัง
เกิดขึ้นในจักรวาลอื่นได้ " มีแต่ไม่ทรงบังเกิดขึ้น (ในจักรวาลอื่น).
บทว่า อปุพพํ อจริมํ แปลว่า ไม่ก่อนไม่หลัง. อธิบายว่า ไม่
เกิดร่วมกัน คือ เกิดก่อนหรือภายหลัง. ก็ในคำนั้นไม่ควรเข้าใจว่า ในกาล
ก่อนเพียงเท่าที่ทรงถือปฏิสนธิในพระครรภ์พระมารดา จนถึงเวลาที่ประทับนั่ง
ที่โพธิบัลลังก์ ด้วยทรงอธิษฐานว่า เรายังไม่บรรลุพระโพธิญาณจักไม่ลุกขึ้น.
เพราะท่านทำการกำหนดเขตไว้ ด้วยการยังหมื่นจักรวาลให้หวั่นไหว ใน
เพราะการถือปฏิสนธิของพระโพธิสัตว์นั่นแล. เป็นอันห้ามการเสด็จอุบัติของ
พระพุทธเจ้าพระองค์อื่น. ไม่ควรเข้าใจว่าในภายหลังตั้งแต่เสด็จปรินิพพาน
จนกระทั่งพระบรมธาตุมีขนาดเท่าเมล็ดพันธุ์ผักกาด ยังประดิษฐานอยู่. เพราะ
เมื่อพระบรมธาตุยังดำรงอยู่ พระพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมเป็นอันยังอยู่ทีเดียว.
เพราะฉะนั้น ในระหว่างเวลาดังกล่าวนี้ ย่อมเป็นอันห้ามการเสด็จอุบัติแห่งพระ-
พุทธเจ้าพระองค์อื่นอย่างเด็ดขาด. แต่เมื่อพระบรมธาตุเสด็จปรินิพพานแล้ว
ไม่ห้ามการเสด็จอุบัติแห่งพระพุทธเจ้าพระองค์อื่น.

อันตรธาน 3


เพราะชื่อว่า อันตรธานมี 3 อย่าง คือ ปริยัติอันตรธาน ปฏิ-
เวธอันตรธาน ปฏิบัติอันตรธาน.
ในอันตรธาน 3 นั้น ปิฎก 3 ซึ่งว่า

ปริยัติ. การแทงตลอดสัจจะ ชื่อว่า ปฏิเวธ. ปฏิปทา (เครื่องดำเนิน) ชื่อ
ว่า ปฏิบัติ.
ใน 3 อย่างนั้น ปฏิเวธและปฏิบัติ มีบ้าง ไม่มีบ้าง. เพราะภิกษุ
ทั้งหลายผู้ทรงปฏิเวธ ย่อมมีมากในกาลครั้งเดียว เป็นอันชี้นิ้วแสดงได้ชัดเจน
ว่า ภิกษุนี้เป็นปุถุชน. ขึ้นชื่อว่า ภิกษุผู้เป็นปุถุชน ไม่ใช่จะมีได้ครั้งเดียว
ในทวีปนี้เท่านั้น. แม้ผู้บำเพ็ญการปฏิบัติทั้งหลาย บางคราวมีมาก บางคราว
ก็มีน้อย.
ด้วยเหตุนี้ ปฏิเวธและปฏิบัติจึงชื่อว่ามีบ้าง ไม่มีบ้าง. แต่ว่าปริยัติ
(ถือว่า) เป็นสำคัญของการดำรงอยู่แห่งพระศาสนา.
พระผู้เป็นบัณฑิต ได้ศึกษาพระไตรปิฎกแล้ว ย่อมบำเพ็ญปฏิเวธ
และปฏิบัติให้บริบูรณ์. พระบรมโพธิสัตว์ของพวกเราทำอภิญญา 5 และ
สมาบัติ 7 ให้เกิดในสำนักของ อาฬารดาบส แล้วถามถึงบริกรรม เนว-
สัญญานาสัญญายตนสมาบัติ
ท่าน อาฬารดาบส บอกว่าไม่รู้. ต่อแต่
นั้นพระองค์จึงได้เสด็จไปยังสำนักของ อุทกดาบส เทียบเคียงคุณพิเศษที่ได้
บรรลุแล้ว (กับท่าน) ได้เรียนถามถึงการบริกรรม เนวสัญญานาสัญญา-
ยตนสมาบัติ
ท่านดาบสก็บอกให้. ในลำดับแห่งคำพูดของท่านดาบสนั่นเอง
พระบรมโพธิสัตว์ก็ทำ เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน นั้นให้สำเร็จ ฉันใด
ภิกษุผู้มีปัญญาก็ฉันนั้นเหมือนกัน ศึกษาปริยัติแล้วย่อมทำปฏิเวธและปฏิบัติ
แม้ทั้งสองประการให้บริบูรณ์ได้. เพราะฉะนั้น เมื่อปริยัติยังดำรงอยู่ พระ
ศาสนาย่อมเป็นอันตั้งอยู่.

อธิบายปริยัติอันตรธาน



ก็เมื่อใด ปริยัติ นั้นอันตรธานหายไป เมื่อนั้น พระอภิธรรม จัก
เสื่อมก่อน. ในพระอภิธรรมนั้น คัมภีร์ปัฏฐาน จะอันตรธานก่อนกว่าทุก