เมนู

อนุปทวรรค



1. อนุปทสูตร



[153] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้:-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับอยู่ที่พระเชตวันมหาวิหาร
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. สมัยนั้นแล พระผู้มีพระ
ภาคเจ้า
ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย. ภิกษุเหล่านั้น
ทูลรับพระพุทธพจน์แล้ว.

ว่าด้วยพระพุทธองค์ทรงสรรเสริญพระสารีบุตร



[154] พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสคำนี้ ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
สารีบุตรเป็นบัณฑิต เป็นผู้มีปัญญามาก มีปัญญากว้างขวาง มีปัญญาร่าเริง
มีปัญญาว่องไว มีปัญญาเฉียบแหลม มีปัญญาคม ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สารี-
บุตร เห็นแจ้งธรรม ตามลำดับบทได้ชั่วครึ่งเดือน ในการเห็นแจ้งธรรมตาม
ลำดับบทของพระสารีบุตรนั้น มีดังต่อไปนี้.

ธรรมในปฐมฌาน



[155] ดูก่อนภิกษุ ทั้งหลาย ในข้อนี้ สารีบุตรสงัดจากกามทีเดียว
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย เข้า ปฐมฌาน มี วิตก มี วิจาร มี ปีติ และ สุข
เกิดแต่วิเวกอยู่ ก็ธรรมในปฐมฌาน คือ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา-
จิต ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา วิญญาณ ฉันทะ อธิโมกข์ วิริยะ
สติ อุเบกขา มนสิการ
เป็นอันสารีบุตรกำหนดได้แล้ว ตามลำดับบท ธรรม

เหล่านั้นที่สารีบุตรรู้แจ้งแล้ว ทั้งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และถึงความดับไป เธอ
รู้ชัดอย่างนี้ว่า นัยว่าธรรมที่ยังไม่มีแก่เรา ย่อมมี ที่มีแล้วย่อมเสื่อมไปอย่างนี้
เธอไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ไม่ถูกตัณหาทิฏฐิอาศัย ไม่ติดใจ ในธรรมเหล่านั้น
หลุดพ้นแล้ว พรากไปได้แล้ว มีใจที่ถูกทำให้ปราศจากเขตแดนแล้วอยู่. เธอ
รู้ชัดว่า คุณวิเศษเป็นเหตุสลัดออกไป (จากภพ) ยิ่งขึ้นไปอีก ยังมีอยู่ เธอ
ยังมีความเห็นต่อไปว่า ธรรมเป็นเครื่องสลัดออกที่ยิ่งขึ้นยังมีอยู่. เพราะ
กระทำความรู้นั้นให้มากขึ้น.

ธรรมในทุติยฌาน



[156] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอีก (คือ) สารีบุตรเข้า
ทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน มีความเป็นธรรมเอกผุดขึ้น เพราะ
ระงับ วิตก วิจาร ไม่มี วิตก ไม่มี วิจาร มีแต่ ปีติ สุข เกิดแต่
สมาธิ อยู่. ก็ธรรมทั้งหลายใน ทุติยฌาน คือ ความผ่องใสแห่งจิต
ในภายใน ปีติ สุข เอกัคคตาจิต ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา
วิญญาณ ฉันทะ อธิโมกข์ วิริยะ สติ อุเบกขา มนสิการ
เป็นอัน
สารีบุตรกำหนดได้แล้วตามลำดับบท ธรรมเหล่านั้นเป็นอันสารีบุตรรู้แจ้งแล้ว
ทั้งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และถึงความดับไป. เธอรู้ชัดอย่างนี้ว่า นัยว่าธรรมที่ยัง
ไม่มีแก่เรา ย่อมมี ที่มีแล้ว ย่อมเสื่อมไปอย่างนี้ เธอไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ไม่
ถูก ตัณหาทิฏฐิ อาศัย ไม่ติดใจในธรรมเหล่านั้น หลุดพ้นแล้ว พรากไป
ได้แล้ว มีใจที่ถูกทำให้ปราศจากเขตแดนแล้วอยู่. เธอรู้ชัดว่า คุณพิเศษเป็น
เหตุสลัดออกไป (จากภพ) ยิ่งขึ้นไปอีก ยังมีอยู่ และ เธอยังมีความเห็น
ต่อไปว่า ธรรมเป็นเครื่องสลัดออกยังมีอยู่ เพราะกระทำความรู้นั้นให้มากขึ้น.