เมนู

อรรถกถาอาเนญชสัปปายสูตร



อาเนญชสัปปายสูตร

มีคำเริ่มต้นว่า ข้าพเจ้าได้ฟังมาแล้วอย่างนี้ :-
พึงทราบวินิจฉัยในพระสูตรนั้น ดังต่อไปนี้. บทว่า อนิจฺจา คือ
ชื่อว่าไม่เทียง เพราะอรรถว่ามีแล้วกลับไม่มี. บทว่า กามา หมายถึงวัตถุ
กามบ้าง กิเลสกามบ้าง. บทว่า ตุจฺฉา คือ ชื่อว่าว่างเปล่า เพราะเว้นจากแก่น
สาร คือ ความเที่ยง ความยั่งยืน และความเป็นตัวตน แต่ไม่ควรถือว่า
ไม่มี ท่านอธิบายว่า เพราะเมื่อพูดว่า กำมือเปล่า ชื่อว่ากำมือไม่มี หา
มิได้. ก็สภาวะอันใด ไม่มีอะไร ๆ ในภายใน สภาวะอันนั้นเรียกว่า ว่าง
เปล่า. บทว่า มุสา แปลว่า หายไป. บทว่า โมสธมฺมา ความว่า มีการ
หายไปเป็นสภาวะ คือ ไม่ปรากฏ เหมือนนา เหมือนสวน และเหมือนเงิน
ทอง ที่หายไป ไม่ปรากฏเหมือนเห็นในฝัน 2 - 3 วันก็หายไป ด้วยเหตุนั้น จึง
ตรัสว่า มีการหายไปเป็นธรรมดา. บทว่า มายากตเมตํ ความว่า ย่อม
ปรากฏ เหมือนท่าน้ำให้เห็นเป็นแก้วมณี ทำใบพุทราให้เห็นเป็นกหาปณะ
ก็หรือสิ่งอื่นๆ เมื่อคนยืนใกล้ ๆ มองดูสิ่งเห็นปานนั้น ของก็จะปรากฏเหมือน
อย่างนั้น แต่เมื่อเลยที่ใกล้ไป สิ่งนั้น ๆ ก็ปรากฏเป็นปกติอย่างเดิม. แม้กาม
ทั้งหลายก็อย่างนั้นเหมือนกัน ท่านกล่าวว่า ทำความลวง เพราะอรรถว่า
ปรากฏเป็นอีกอย่างหนึ่ง. อีกอย่างหนึ่ง นักเล่นกล เอาน้ำเป็นต้น มาแสดง
ลวงโดยทำให้เห็นเป็นแก้วมณีเป็นต้น ฉันใด แม้กามทั้งหลายก็ฉันนั้น
แสดงลวงสภาวะที่ไม่เที่ยงเป็นต้น โดยให้เห็นว่า เที่ยง เป็นต้น เพราะเหตุนั้น
ท่านจึงกล่าวว่า ทำการลวง เพราะอรรถว่า เป็นตัวลวง. บทว่า พาลลาปนํ
ความว่า ชื่อว่าเป็นที่บ่นถึงของคนพาลเพราะทำให้คนพาลบ่นถึงอย่างนี้ว่า