เมนู

พระมหาราชาผู้สถิตอยู่ในธรรม ทรงประพฤติธรรมในพราหมณคหบดี ชาว
นิคมและชาวชนบท และทรงรักษาอุโบสถทุกวันที่สิบสี่ ที่สิบห้า และที่แปด
แห่งปักษ์ ข้าแต่มหาราช เทวดาชั้นดาวดึงส์ปรารถนาจะเห็นพระองค์ หม่อม
ฉันจักส่งรถม้าอาชาไนยเทียมม้าพันหนึ่งมาให้พระองค์ พระองค์พึงขึ้นประทับ
ทิพยยานเถิด อย่าทรงหวั่นพระทัยเลย. พระเจ้านิมิราชทรงรับด้วยอาการนิ่งอยู่
ครั้งนั้น ท้าวสักกะจอมเทพทรงทราบว่า พระเจ้านิมิราชทรงรับเชิญแล้ว ทรง
หายไปในที่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้านิมิราช มาปรากฏในเทวดาชั้นดาวดึงส์
เปรียบเหมือนบุรุษมีกำลังพึงเหยียดแขนที่คู้ออก หรือพึงคู้แขนที่เหยียดเข้า
ฉะนั้น.

นำเสด็จพระเจ้านิมิราชถึงสุธรรมาสภา



[460] ดูก่อนอานนท์ ครั้งนั้น ท้าวสักกะจอมเทพ ตรัสเรียก
มาตลีเทพบุตรผู้รับใช้มาว่า ดูก่อนเพื่อนมาตลี มาเถิดท่าน จงเทียมรถม้า-
อาชาไนยอันเทียมม้าพันหนึ่ง แล้วเข้าไปเฝ้าพระเจ้านิมิราช จงทูลอย่างนี้ว่า
ข้าแต่มหาราช รถม้าอาชาไนยเทียมด้วยม้าพันหนึ่งนี้ ท้าวสักกะจอมเทพทรงส่ง
มารับพระองค์ พระองค์พึงเสด็จขึ้นประทับทิพยยานเถิด อย่าทรงหวั่นพระทัย
เลย. มาตลีเทพบุตรผู้รับใช้ทูลรับ รับสั่งของท้าวสักกะจอมเทพ แล้วเทียม
รถม้าอาชาไนย เทียมด้วยม้าพันหนึ่ง เข้าไปเฝ้าพระเจ้านิมิราชแล้วทูลว่า
ข้าแต่มหาราช รถม้าอาชาไนยอันเทียมด้วยม้าพันหนึ่งนี้ ท้าวสักกะจอมเทพ
ทรงส่งมารับ พระองค์ เชิญเสด็จขึ้นประทับทิพยยานเถิด อย่าทรงหวั่นพระทัย
เลย อนึ่ง ทางสำหรับสัตว์ผู้มีกรรมอันลามก เสวยผลของกรรมอันลามกทาง
หนึ่ง ทางสำหรับสัตว์ผู้มีกรรมอันงามเสวยผลของกรรมอันงามทางหนึ่ง ข้า-
พระองค์จะเชิญเสด็จพระองค์โดยทางไหน.

พระเจ้านิมิราชตรัสว่า ดูก่อนมาตลี จงนำเราไปโดยทางทั้งสองนั้น
แหละ.
มาตลีเทพบุตรผู้รับใช้ นำเสด็จพระเจ้านิมิราชถึงสุธรรมาสภา. ท้าว
สักกะจอมเทพทอดพระเนตร เห็นพระเจ้านิมิราชกำลังเสด็จมาแต่ไกล แล้วได้
ตรัสว่า ข้าแต่มหาราช เชิญเสด็จมาเถิด ข้าแต่มหาราช พระองค์เสด็จมาดีแล้ว
เทวดาชั้นดาวดึงส์ประชุมสรรเสริญอยู่ในสุธรรมาสภาว่า ดูก่อนท่านผู้เจริญ
เป็นลาภของชนชาววิเทหะหนอ ชนชาววิเทหะได้ดีแล้วหนอ ที่พระเจ้านิมิราช
ผู้ทรงธรรม เป็นพระธรรมราชา เป็นพระมหาราชาผู้สถิตอยู่ในธรรม ทรง
ประพฤติธรรมในพราหมณ์ คหบดี ชาวนิคมและชนบท และทรงรักษาอุโบสถ
ทุกวัน ที่สิบสี่ ที่สิบท้า และที่แปดแห่งปักษ์ ข้าแต่มหาราช เทวดาชั้นดาวดึงส์
ปรารถนาจะพบเห็นพระองค์ ขอเชิญพระองค์จงอภิรมย์อยู่ในเทวดาทั้งหลาย
ด้วยเทวานุภาพเถิด.
พระเจ้านิมิราชตรัสว่า อย่าเลย พระองค์ผู้นิรทุกข์ ขอจงนำหม่อมฉัน
กลับไปยังเมืองมิถิลาในมนุษยโลกนั้นเถิด หม่อมฉันจักได้ประพฤติธรรมอย่าง
นั้นในพราหมณ์ คหบดี ชาวนิคมและชาวชนบท และจักได้รักษาอุโบสถ
ทุกวันที่สิบสี่ ที่สิบห้า และที่แปดแห่งปักษ์.
ลำดับนั้น ท้าวสักกะจอมเทพตรัสเรียกมาตลีเทพบุตรผู้รับใช้มาว่า
ดูก่อนเพื่อนมาตลี ท่านจงเทียมรถม้าอาชาไนยอันเทียมด้วยม้าพันหนึ่ง แล้ว
นำพระเจ้านิมิราชกลับไปยังเมืองมิถิลาในมนุษยโลกนั้น. มาตลีเทพบุตรผู้รับใช้
ทูลรับคำสั่งของท้าวสักกะจอมเทพแล้ว เทียมรถม้าอาชาไนยอันเทียมด้วยม้า
พันหนึ่ง แล้วนำพระเจ้านิมิราชกลับไปยังเมืองมิถิลาในมนุษยโลกนั้น.
[461] ดูก่อนอานนท์ ได้ยินว่า สมัยนั้น พระราชาผู้เป็นใหญ่ทรง
ประพฤติธรรมในพราหมณ์ คหบดี ชาวนิคมและชาวชนบท และทรงรักษา

อุโบสถทุกวันที่สิบสี่ ที่สิบห้า และที่แปดแห่งปักษ์. ครั้งนั้น ด้วยล่วงปีเป็น
อันมาก ล่วงร้อยปีเป็นอันมาก ล่วงพันปีเป็นอันมาก พระเจ้านิมิราชตรัสกะ
ช่างกลับกว่า ดูก่อนเพื่อนกัลบก ท่านเห็นผมหงอกเกิดขึ้นที่บนศีรษะของเรา
เมื่อใด พึงบอกแก่เราเมื่อนั้น. ช่างกัลบกทูลรับคำสั่งพระเจ้านิมิราชว่า อย่างนั้น
ขอเดชะ. ด้วยล่วงปีเป็นอันมาก ล่วงร้อยปีเป็นอันมาก ล่วงพันปีเป็นอันมาก
ช่างกัลบกได้เห็นพระเกศาหงอกเกิดขึ้นบนพระเศียรพระเจ้านิมิราช จึงได้กราบ
ทูลว่า เทวทูตปรากฏแก่พระองค์แล้ว พระเกศาหงอกเกิดขึ้นบนพระเศียรแล้ว
เห็นปรากฏอยู่.
พระเจ้านิมิราชตรัสว่า ดูก่อนเพื่อนกัลบก ถ้าอย่างนั้น ท่านจงเอา
แหนบถอนผมหงอกนั้นให้ดี แล้ววางไว้ในกระพุ่มมือของเรา.
ช่างกัลบกทูลรับคำสั่งพระเจ้านิมิราช แล้วเอาแหนบถอนพระเกศา
หงอกนั้นด้วยดี วางไว้ในกระพุ่มพระหัตถ์ของพระเจ้านิมิราช. ครั้งนั้น
พระราชาพระราชทานบ้านส่วยแก่ช่างกัลบก แล้วโปรดให้พระราชกุมารผู้เป็น
ราชบุตรองค์ใหญ่มาเฝ้า แล้วตรัสว่า พ่อกุมาร เทวทูตปรากฏแก่เราแล้ว ผม-
หงอกเกิดขึ้นบนศีรษะแล้วเห็นปรากฏอยู่ ก็กามทั้งหลายอันเป็นของมนุษย์เรา
บริโภคแล้ว เวลานี้เป็นสมัยที่เราจะแสวงหากามอันเป็นทิพย์ มาเถิดเจ้า เจ้าจง
ครองราชสมบัตินี้ ส่วนเราจักปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้ากาสายะ ออกจาก
เรือนบวชเป็นบรรพชิต ดูก่อนกุมาร ถ้าแม้เจ้าพึงเห็นผมหงอกเกิดขึ้นบนศีรษะ
เมื่อใด เมื่อนั้น เจ้าพึงให้บ้านส่วยแก่ช่างกัลบก พร่ำสอนราชกุมารผู้เป็น
พระราชบุตรองค์ใหญ่ ในการที่จะเป็นพระราชาให้ดีแล้วปลงผมและหนวด
นุ่งห่มผ้ากาสายะ ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตเถิด พึงพระพฤติตามวัตร
อันงานที่เราตั้งไว้แล้วนี้ เจ้าอย่าได้เป็นบุรุษคนสุดท้ายของเราเลย เมื่อยุคแห่ง
บุรุษใดเป็นไปอยู่ วัตรอันงามเห็นปานนี้ขาดสูญไป ยุคแห่งบุรุษนั้นชื่อว่าเป็น

บุรุษคนสุดท้ายแห่งราชบรรพชิตนั้น. ดูก่อนพ่อกุมาร เจ้าจะพึงประพฤติ
ตามวัตรอันงามที่เราตั้งไว้แล้วนี้ได้ด้วยประการใด เรากล่าวอย่างนี้กะเจ้าด้วย
ประการนั้น เจ้าอย่าได้เป็นบุรุษคนสุดท้ายของเราเลย.

พระเจ้านิมิราชทรงผนวช



[462] ดูก่อนอานนท์ ครั้งนั้น พระเจ้านิมิราชครั้นพระราชทาน
บ้านส่วยแก่ช่างกัลบก ทรงพร่ำสอนราชกุมารผู้เป็นพระราชบุตรองค์ใหญ่
ในการที่จะเป็นพระราชาให้ดีแล้ว ทรงปลงพระเกศาและพระมัสสุ ทรงครอง
ผ้ากาสายะ เสด็จออกจากพระราชนิเวศน์ ทรงผนวชเป็นบรรพชิต อยู่ในเมฆ
เทวัมพวันนี้แล. ท้าวเธอมีพระหฤทัยประกอบด้วยเมตตา ทรงแผ่ไปทั่วทิศ
หนึ่งอยู่. ในทิศที่สอง ในทิศที่สาม ในทิศที่สี่ก็เหมือนกัน มีพระหฤทัย
ประกอบด้วยเมตตา อันไพบูลย์ เป็นมหัคคตะ หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร
ไม่มีความเบียดเบียน ทรงแผ่ไปทั่วโลก โดยมุ่งประโยชน์แก่สัตว์ทุกเหล่าในที่
ทุกสถาน ทั้งในทิศเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง ด้วยประการฉะนี้ มี
พระหฤทัยประกอบด้วยกรุณา... มีพระหฤทัยประกอบด้วยมุทิตา... มีพระ-
หฤทัยประกอบด้วยอุเบกขา ทรงแผ่ไปทั่วทิศหนึ่งอยู่. ในทิศที่สอง ในทิศที่
สาม ในทิศที่สี่ก็เหมือนกัน . มีพระหฤทัยประกอบด้วยอุเบกขา อันไพบูลย์
เป็นมหัคคตะ หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียน ทรงแผ่ไป
ทั่วโลก โดยมุ่งประโยชน์แก่สัตว์ทุกเหล่าในที่ทุกสถาน ทั้งในทิศเบื้องบน
เบื้องล่าง เบื้องขวาง ด้วยประการฉะนี้. ดูก่อนอานนท์ ก็พระเจ้านิมิราชทรง
เล่นเป็นพระกุมาร แปดหมื่นสี่พันปี ทรงดำรงความเป็นอุปราชแปดหมื่น.
สี่พันปี เสวยราชสมบัติแปดหมื่นสี่พันปี เสด็จออกจากพระราชนิเวศน์ ทรง-
ผนวชเป็นบรรพชิตประพฤติพรหมจรรย์อยู่ที่มฆเทวัมพวันนี้แล แปดหมื่น
สี่พันปี พระองค์เจริญพรหมวิหารสี่แล้ว เมื่อสวรรคตได้เสด็จเข้าถึงพรหมโลก.