เมนู

อรรถกถาจังกีสูตร



จังกีสูตรขึ้นต้นว่า ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
ในจังกีสูตรนั้น คำว่า เทววเน สาลวเน ความว่า ได้ยินว่า
ประชาชนกระทำพลีกรรมแก่เทวดาในป่าสาละนั้น เพราะเหตุนั้น ป่าสาละนั้น
จึงเรียกว่า เทพวันบ้าง สาลวันบ้าง. คำว่า ปกครองหมู่บ้านชื่อว่า
โอปาสาทะ
ความว่า จังกีพราหมณ์ ครอบครองอยู่ในหมู่บ้านพราหมณ์มี
ชื่อว่า โอปาสาทะ คือเป็นใหญ่ของหมู่บ้านนั้น ปกครองอยู่ในหมู่บ้านนั้นตลอด
เขตแดนที่พึงรับผิดชอบ. ก็ในคำว่า โอปาลาทํ อชฺฌาวสติ นี้พึงทราบว่า
ทุติยาวิภัติลงในความหมายเป็นสัตตมีวิภัติ เนื่องด้วยอุปสรรค. ในบทที่เหลือ
ในพระสูตรนั้น ควรขวนขวายหาลักษณะจากคัมภีร์ศัพทศาสตร์ เพราะการที่
ศัพท์นั้นเป็นทุติยาวิภัติ. บทว่า สตฺตุสฺสทํ หนาแน่นด้วยมนุษย์และสัตว์
ความว่า หนาแน่น คือ แออัดด้วยมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย อธิบายว่า มีคนมาก
มีมนุษย์เกลื่อนกล่น และพลุกพล่านด้วยสัตว์หลายชนิด มีช้างม้า นกยูง และ
เนื้อที่เลี้ยงไว้ เป็นต้น. ก็เพราะเหตุที่บ้านนั้นสมบูรณ์ด้วยหญ้าสำหรับช้าง
ม้าเป็นต้นกิน และหญ้าสำหรับมุงบ้านซึ่งเกิดรอบนอก อนึ่ง สมบูรณ์ด้วย
ไม้ฟืนและไม้เครื่องเรือน และเพราะเหตุที่ภายในบ้านนั้น มีสระโบกขรณี
มากมายมีทั้งสัณฐานกลมและสี่เหลี่ยมเป็นต้น และภายนอก (บ้าน) มีบึง
มิใช่น้อยวิจิตรงดงามด้วยดอกไม้ที่เกิดในน้ำ มีน้ำเต็มอยู่เป็นนิจทีเดียว เพราะ
เหตุนั้น จึงตรัสว่า มีหญ้า ไม้และน้ำ. ชื่อว่า มีธัญญาหาร เพราะเป็นไปกับ
ด้วยธัญญาหาร. อธิบายว่า สะสมธัญญาหารไว้มากมาย มีชนิดอาหารที่จะกิน
ก่อนและอาหารที่จะกินหลังเป็นต้น. ด้วยเหตุดังกล่าวมาเพียงเท่านี้ พราหมณ์