เมนู

อาสนะถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า ทำประทักษิณแล้ว เก็บเสนาสนะถือ
บาตรและจีวรหลีกจาริกไปทางถุลลโกฏฐิตนิคม จาริกไปโดยลำดับ บรรลุถึง
ถุลลโกฏฐิตนิคมแล้ว.
[435] ได้ยินว่า ท่านพระรัฐปาละพักอยู่ ณ พระราชอุทยาน ชื่อ
มิคาจีระของพระเจ้าโกรัพยะในถุลลโกฏฐิตนิคมนั้น. ครั้งนั้นเวลาเช้า ท่าน
พระรัฐปาละนุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวรเข้าไปบิณฑบาตยังถุลลโกฏฐิตนิคม.
เมื่อเที่ยวบิณฑบาตในถุลลโกฏฐิตนิคมตามลำดับตรอก ได้เข้าไปยังนิเวศน์ของ
บิดาท่าน. สมัยนั้น บิดาของท่านพระรัฐปาละ กำลังให้ช่างกัลบกสางผมอยู่ที่
ซุ้มประตูกลาง ได้เห็นท่านพระรัฐปาละกำลังมาแต่ไกล แล้วได้กล่าวว่า
พวกสมณะศีรษะโล้นเหล่านี้ บวชบุตรคนเดียวผู้เป็นที่รักที่ชอบใจของเรา.
ครั้งนั้น ท่านพระรัฐปาละไม่ได้การให้ ไม่ได้คำตอบที่บ้านบิดาของท่าน ที่แท้
ได้แต่คำด่าเท่านั้น.

บอกเรื่องพระรัฐปาละ



[436] สมัยนั้น ทาสีแห่งญาติของท่านพระรัฐปาละปรารถนาจะเอา
ขนมกุมมาสที่บูดไปทิ้ง. ท่านพระรัฐปาละได้กล่าวกะทาสีของญาตินั้นว่า ดูก่อน
น้องหญิง ถ้าสิ่งนั้นจำต้องทิ้ง จงใส่ในบาตรของฉันนี้เถิด. ทาสีของญาติเมื่อ
เทขนมกุมมาสที่บูดนั้นลงในบาตรของท่านพระรัฐปาละ จำนิมิตแห่งมือเท้าและ
เสียงได้ แล้วได้เข้าไปหามารดาของท่านรัฐปาละ แล้วได้กล่าวว่า เดชะคุณ
แม่เจ้า แม่เจ้าพึงทราบว่า รัฐปาละลูกเจ้ามาแล้ว.
มารดาท่านพระรัฐปาละกล่าวว่า แม่คนใช้ ถ้าเจ้ากล่าวจริง ฉันจะ
ทำเจ้าไม่ให้เป็นทาสี.
ลำดับนั้น มารดาของท่านพระรัฐปาละเข้าไปหาบิดาถึงที่อยู่แล้วได้
กล่าวว่า เดชะท่านคฤหบดี ท่านพึงทราบว่า ได้ยินว่ารัฐปาลกุลบุตรมาถึงแล้ว.