เมนู

ผู้เจริญ พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงกราบเท้าทั้งสองของท่านพระอานนท์ด้วยพระ
เศียร และรับสั่งมาว่า ได้ยินว่า ถ้าท่านพระอานนท์ไม่มีกิจรีบด่วนอะไร ขอ
ท่านพระอานนท์จงอาศัยความอนุเคราะห์รออยู่สักครู่หนึ่งเถิด ดังนี้ . ท่านพระ-
อานนท์ได้รับนิมนต์ด้วยดุษณีภาพ.

ทรงดำเนินไปหาพระอานนท์



[551] ครั้งนั้นแล พระเจ้าปเสนทิโกศล เสด็จพระราชดำเนิน
ด้วยคชสาร ไปจนสุดทางที่ช้างจะไปได้ แล้วเสด็จลงจากคชสาร ทรงดำเนิน
เข้าไปหาท่านพระอานนท์ ทรงอภิวาทแล้ว ประทับยืน ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้วได้ตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ถ้าท่านพระอานนท์
ไม่มีกิจรีบด่วนอะไร ขอโอกาสเถิด ท่านผู้เจริญ ขอท่านพระอานนท์จงอาศัย
ความอนุเคราะห์เข้าไปยังฝั่งแม่น้ำอจิรวดีเถิด. ท่านพระอานนท์รับอาราธนาด้วย
ดุษณีภาพ. ครั้งนั้นท่านพระอานนท์ได้เข้าไปยังฝั่งแม่น้ำอจิรวดี แล้วนั่งบน
อาสนะที่เข้าจัดถวาย ณ โคนไม้ต้นหนึ่ง. พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จพระราช
ดำเนินด้วยคชสารไปจนสุดทางที่ช้างจะไปได้ แล้วเสด็จลงทรงดำเนินเข้าไปหา
ท่านพระอานนท์ ทรงอภิวาทแล้วประทับยืน ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว
ได้ตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ขอโอกาสเถิด ขอนิมนต์ท่าน
พระอานนท์นั่งบนเครื่องลาดไม้เถิด. ท่านพระอานนท์ทูลว่าอย่าเลย มหาบพิตร
เชิญมหาบพิตรประทับนั่งเถิด อาตมภาพนั่งบนอาสนะของอาตมภาพแล้ว.
พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงประทับนั่งบนพระราชอาสน์ที่เขาแต่งตั้งไว้.
[552] ครั้นแล้ว พระเจ้าปเสนทิโกศล ได้ตรัสถามท่านพระอานนท์ว่า
ข้าแต่ท่านอานนท์ผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น พึงทรงประพฤติกาย
สมาจารที่สมณพราหมณ์ทั้งหลายผู้รู้แจ้งพึงติเตียนบ้างหรือหนอ. ท่านพระอานนท์

ถวายพระพรว่า ดูก่อนมหาบพิตร พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ไม่พึงทรง
พระพฤติกายสมาจารที่สมณพราหมณ์ทั้งหลายผู้รู้แจ้งพึงติเตียนเลย ขอถวาย
พระพร.
ป. ข้าแต่ท่านพระอานนท์ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น พึงทรง
พระพฤติวจีสมาจาร ฯลฯ มโนสมาจารที่สมณพราหมณ์ผู้รู้แจ้งทั้งหลายพึงติเตียน
บ้างหรือหนอ.
อา. ดูก่อนมหาบพิตร พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ไม่พึงทรง
ประพฤติมโนสมาจารที่สมณพราหมณ์ทั้งหลายผู้รู้แจ้งพึงติเตียนเลย ขอถวาย
พระพร.

ปัญหากายสมาจารเป็นต้น



[553] ป. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ น่าอัศจรรย์นัก ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ไม่
เคยมีมาแล้ว ก็เราทั้งหลายไม่สามารถจะยังข้อความที่ท่านพระอานนท์ให้บริ-
บูรณ์ด้วยการแก้ปัญหา ให้บริบูรณ์ด้วยปัญหาได้ ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ชนเหล่า
ใดเป็นพาล ไม่ฉลาด ไม่ใคร่ครวญ ไม่พิจารณาแล้ว ก็ยังกล่าวคุณหรือโทษ
ของชนเหล่าอื่นได้ เราทั้งหลายไม่ยึดถือการกล่าวคุณหรือโทษของชนเหล่านั้น
โดยความเป็นแก่นสาร ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ส่วนชนเหล่าใดเป็นบัณฑิต เป็น
ผู้ฉลาดเฉียบแหลม มีปัญญา ใคร่ครวญ พิจารณาแล้ว กล่าวคุณหรือโทษ
ของชนเหล่าอื่นเราทั้งหลายย่อมยึดถือการกล่าวคุณหรือโทษของชนเหล่านั้น
โดยความเป็นแก่นสาร ข้าแต่ท่านพระอานนท์ผู้เจริญ ก็กายสมาจารที่สมณ-
พราหมณ์ทั้งหลายผู้รู้แจ้งพึงติเตียนเป็นไฉน.
อา. ดูก่อนมหาบพิตร กายสมาจารที่เป็นอกุศล ที่สมณพราหมณ์
ทั้งหลายผู้รู้แจ้งพึงติเตียน ขอถวายพระพร.