เมนู

ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส ย่อมเกิดแต่ของที่รัก เป็นมาแต่ของ
ที่รัก. ดูก่อนพราหมณ์ ชื่อว่า โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส
ย่อมเกิดแต่ของที่รัก เป็นมาแต่ของที่รักอย่างไร ท่านพึงทราบโดยปริยายแม้นี้.

เรื่องเคยมีแล้ว



[540] ดูก่อนพราหมณ์ เรื่องเคยมีมาแล้ว ในพระนครสาวัตถีนี้แล
มารดาของหญิงคนหนึ่งได้ทำกาละ. เพราะการทำกาละของมารดานั้น หญิง
คนนั้นเป็นบ้า มีจิตฟุ้งซ่าน เข้าไปตามถนนทุกถนน ตามตรอกทุกตรอก
แล้วได้ถามอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลายได้พบมารดาของฉันบ้างไหม ท่านทั้งหลาย
ได้พบมารดาของฉันบ้างไหม. ดูก่อนพราหมณ์ ข่อว่า โสกะ ปริเทวะ ทุกข์
โทมนัส และอุปายาส ย่อมเกิดแต่ของที่รัก เป็นมาแต่ของที่รักอย่างไร
ท่านพึงทราบโดยปริยายแม้นี้. ดูก่อนพราหมณ์ เรื่องเคยมีมาแล้ว ในพระนคร
สาวัตถีนี้แล บิดาของหญิงคนหนึ่งได้ทำกาละ.... พี่น้องชาย พี่น้องหญิง
บุตร ธิดา สามีของหญิงคนหนึ่งได้ทำกาละ. เพราะการทำกาละของบิดา
เป็นต้นนั้น หญิงคนนั้นเป็นบ้า มีจิตฟุ้งซ่าน เข้าไปตามถนนทุกถนน ตาม
ตรอกทุกตรอก แล้วได้ถามอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลายได้พบบิดาเป็นต้นของฉัน
บ้างไหม ท่านทั้งหลายได้พบบิดาเป็นต้นของฉันบ้างไหม. ดูก่อนพราหมณ์
ข้อว่า โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส ย่อมเกิดแต่ของที่รัก
เป็นมาแต่ของที่รัก อย่างไร ท่านพึงทราบโดยปริยายแม้นี้แล.
[541] ดูก่อนพราหมณ์ เรื่องเคยมีมาแล้ว ในพระนครสาวัตถีนี้แล
มารดาของชายคนหนึ่งได้ทำกาละลง. เพราะการทำกาละของมารดานั้น ชายคน
นั้นเป็นบ้า มีจิตฟุ้งซ่าน เข้าไปตามถนนทุกถนน ตามตรอกทุกตรอก แล้ว
ได้ถามอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลายได้พบมารดาของข้าพเจ้าบ้างไหม ท่านทั้งหลาย

ได้พบมารดาของข้าพเจ้าบ้างไหม. ดูก่อนพราหมณ์ ข้อว่า โสกะ ปริเทวะ
ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส ย่อมเกิดแต่ของที่รัก เป็นมาแต่ของที่รักอย่างไร
ท่านพึงทราบโดยปริยายแม้นี้. ดูก่อนพราหมณ์ เรื่องเคยมีมาแล้ว ในพระนคร
สาวัตถีนี้แล บิดาของชายคนหนึ่งได้ทำกาละ... พี่น้องชาย พี่น้องหญิง บุตร
ธิดา ภรรยาของชายคนหนึ่งทำกาละ เพราะการทำกาละของบิดาเป็นต้น นั้น
ชายคนนั้นเป็นบ้า มีจิตฟุ้งซ่าน เข้าไปตามถนนทุกถนน ตามตรอกทุกตรอก
แล้วได้ถามอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลายได้พบบิดาเป็นต้น ของข้าพเจ้าบ้างไหม ท่าน
ทั้งหลายได้พบบิดาเป็นต้นของข้าพเจ้าบ้างไหม. ดูก่อนพราหมณ์ ข้อว่า โสกะ
ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส ย่อมเกิดแต่ของที่รัก เป็นมาแต่ของ
ทีรัก อย่างไร ท่านพึงทราบโดยปริยายแม้นี้.
[542] ดูก่อนพราหมณ์ เรื่องเคยมีมาแล้ว ในพระนครสาวัตถีนี้แล
หญิงคนหนึ่งได้ไปยังสกุลของญาติ พวกญาติของหญิงนั้น ใคร่จะพรากสามีของ
หญิงนั้น แล้วยกหญิงนั้นให้แก่ชายอื่น แต่หญิงนั้นไม่ปรารถนาชายคนนั้น.
ครั้งนั้นแล หญิงนั้น ได้บอกกับสามีว่า ข้าแต่ลูกเจ้า พวกญาติของดิฉัน ใคร่จะ
พรากท่านเสีย แล้วยกดิฉันให้แก่ชายอื่น แต่ฉันไม่ปรารถนาชายคนนั้น. ครั้ง
นั้นแล บุรุษผู้เป็นสามีได้ตัดหญิงผู้เป็นภรรยานั้นออกเป็นสองท่อน แล้วจึง
ผ่าตนด้วยความรักว่า เราทั้งสองจักตายไปด้วยกัน. ดูก่อนพราหมณ์ ข้อว่า
โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส ย่อมเกิดแต่ของที่รัก เป็นมา
แต่ของที่รัก อย่างไร ท่านพึงโปรดทราบโดยปริยายแม้นี้.
[543] ลำดับนั้นแล นาฬิชังฆพราหมณ์ชื่นชม อนุโมทนาพระภาษิต
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วลุกจากที่นั่ง ได้เข้าไปเฝ้าพระนางมัลลิกาเทวียังที่
ประทับ ครั้นแล้วได้กราบทูลถึงการที่ไค้เจรจาปราศรัยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า
ทั้งหมดแก่พระนางมัลลิกาเทวี. ลำดับนั้นแล พระนางมัลลิกาเทวี ได้เข้าไป

เฝ้าพระเจ้าปเสนทิโกศลถึงที่ประทับ แล้วได้ทูลถามพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า
ข้าแต่พระมหาราช ทูลกระหม่อททรงเข้าพระทัยความข้อนั้น เป็นไฉน พระกุมารี
พระนามว่าวชิรี เป็นที่รักของทูลกระหม่อมหรือ. พระเจ้าปเสนทิโกศลตรัส
ตอบว่า. อย่างนั้นมัลลิกา วชิรีกุมารีเป็นที่รักของฉัน.
ม. ข้าแต่พระมหาราช ทูลกระหม่อมจะทรงเข้าพระทัยความข้อนั้น
เป็นไฉน เพราะพระวชิรีกุมารีแปรปรวนเป็นอย่างอื่นไป โสกะ ปริเทวะ ทุกข์
โทมนัส และอุปายาส จะพึงเกิดขึ้นแก่ทูลกระหม่อมหรือหาไม่ เพคะ.
ป. ดูก่อนมัลลิกา เพราะวชิรีกุมารีแปรปรวนเป็นอย่างอื่นไป แม้
ชีวิตของฉันก็พึงเป็นอย่างอื่นไป ทำไม โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และ
อุปายาสจักไม่เกิดแก่ฉันเล่า.
ม. ข้าแต่พระมหาราช ข้อนี้แล ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้ ทรง
เห็นเป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ทรงมุ่งหมายเอา ตรัสไว้ว่า โสกะ
ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส ย่อมเกิดแต่ของที่รัก เป็นมาแต่ของที่
รัก เพคะ.
[544] ข้าแต่พระมหาราช ทูลกระหม่อมจะทรงเข้าพระทัยความข้อ
นั้นเป็นไฉน พระนางวาสภขัตติยาเป็นที่รักของทูลกระหม่อมหรือ เพคะ.
ป. อย่างนั้น มัลลิกา พระนางวาสภขัตติยาเป็นที่รักของฉัน.
ม. ข้าแต่พระมหาราช เพราะพระนางวาสภขัตติยาแปรปรวนเป็น
อย่างอื่นไป โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมันส และอุปายาส พึงเกิดขึ้นแก่
ทูลกระหม่อมหรือหาไม่ เพคะ.
ป. ดูก่อนมัลลิกา เพราะวาสภขัตติยาแปรปรวนเป็นอย่างอื่นไป แม้
ชีวิตของฉันก็พึงเป็นอย่างอื่นไป ทำไมโสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และ
อุปายาสจักไม่เกิดแก่ฉันเล่า.

ม. ข้าแด่พระมหาราช ข้อนี้แล ที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ทรงรู้ ทรง
เห็นเป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ทรงมุ่งหมายเอา ตรัสไว้ว่า โสกะ
ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส ย่อมเกิดแต่ของที่รัก เป็นมาแต่ของ
ที่รัก เพคะ.

ปิยปัญหา



[545] ข้าแต่พระมหาราช ทูลกระหม่อมจะทรงเข้าพระทัยความ
ข้อนั้นเป็นไฉน ท่านวิฑูฑภเสนาบดีเป็นที่รักของทลกระหม่อมหรือ เพคะ.
ป. อย่างนั้น มัลลิกา วิฑูฑภเสนาบดีเป็นที่รักของฉัน.
ม. ข้าแต่พระมหาราช ทูลกระหม่อมจะทรงเข้าพระทัยความข้อนั้น
เป็นไฉน เพราะท่านวิฑูฑภเสนาบดีแปรปรวนเป็นอย่างอื่นไป โสกะ ปริเทวะ
ทุกข์ โทมนัส และอุปายาสจะพึงเกิดแก่ทูลกระหม่อมหรือหาไม่ เพคะ.
ป. ดูก่อนมัลลิกา เพราะวิฑูฑภเสนาบดีแปรปรวนเป็นอย่างอื่นไป
แม้ชีวิตของฉันก็พึงเป็นอย่างอื่นไป ทำไมโสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และ
อุปายาสจักไม่เกิดแก่ฉันเล่า.
ม. ข้าแต่พระมหาราช ข้อนี้แล ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้ ทรง
เห็นเป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ทรงมุ่งหมายเอา ตรัสรู้ไว้ว่า โสกะ
ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส ย่อมเกิดแต่ของที่รัก เป็นมาแต่ของ
ที่รัก เพคะ.
[546] ข้าแต่พระมหาราช ทูลกระหม่อมจะทรงเข้าพระทัยความ
ข้อนั้นเป็นไฉน หม่อมฉัน เป็นที่รักของทูลกระหม่อมหรือ เพคะ.
ป. อย่างนั้น มัลลิกา เธอเป็นที่รักของฉัน.