เมนู

ตรัสเรียกนาฬิชังฆพราหมณ์



[539] ครั้งนั้นแล พระนางมัลลิกาเทวีตรัสเรียกพราหมณ์ชื่อนาฬิ-
ชังฆะมาตรัสว่า มานี่แน่ะท่านพราหมณ์ ขอท่านจงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าถึงที่ประทับ แล้วถวายบังคมพระยุคลบาทของพระองค์ด้วยเศียรเกล้า
แล้วทูลถามถึงความมีพระอาพาธน้อย มีพระโรคเบาบาง ทรงกะปรี้กะเปร่า
มีพระกำลัง ทรงพระสำราญตามคำของฉันว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระนาง-
มัลลิกาเทวีขอถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้า
ทูลถามถึงความมีพระอาพาธน้อย มีพระโรคเบาบ้าง ทรงกะปรี้กะเปร่า มี
พระกำลัง ทรงพระสำราญ และท่านจงทูลถามอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พระวาจาว่า โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส ย่อมเกิดแต่ของ
ที่รัก เป็นมาแต่ของที่รัก ดังนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสจริงหรือ พระผู้มี
พระภาคเจ้าทรงพยากรณ์แก่ท่านอย่างไร ท่านพึงเรียนพระดำรัสนั้นให้ดี แล้ว
มาบอกแก่ฉัน อันพระตถาคตทั้งหลายย่อมตรัสไม่ผิดพลาด.
นาฬิชังฆพราหมณ์รับพระเสาวณีย์พระนางมัลลิกาแล้ว ได้เข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นผ่าน
การปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว
ได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระโคดม พระนางมัลลิกาเทวี ขอถวายบังคม พระ-
ยุคลบาทของพระโคดมด้วยเศียรเกล้า ทูลถามถึงความมีพระอาพาธน้อย มี
พระโรคเบาบาง ทรงกะปรี้กะเปร่า มีพระกำลัง ทรงพระสำราญ และรับสั่ง
ทูลถามอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระวาจานี้ว่า โสกะ ปริเทวะ ทุกข์
โทมนัส และอุปายาส ย่อมเกิดแต่ของที่รัก เป็นมาแต่ของที่รัก ดังนี้ พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าตรัสจริงหรือ. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนพราหมณ์
ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ดูก่อนพราหมณ์ ข้อนี้เป็นอย่างนั้น เพราะว่า โสกะ