เมนู

[274] ก็โดยสมัยนั้น ท่านพระสารีบุตรนั่งถวายอยู่งานพัด ณ เบื้อง-
พระปฤษฎางค์พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้มีความดำริว่า ได้ยินว่า พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสการละธรรมเหล่านั้นด้วยปัญญาอันยิ่งแก่เราทั้งหลาย ได้ยินว่า
พระสุคตตรัสการสละคืนธรรมเหล่านั้นด้วยปัญญาอันยิ่งแก่เราทั้งหลาย เมื่อ
ท่านพระสารีบุตรเห็นตระหนักดังนี้ จิตก็หลุดพ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย เพราะ
ไม่ถือมั่น.
ธรรมจักษุปราศจากธุลี ปราศจากมลทิน ได้เกิดขึ้นแล้วแก่ทีฆนข-
ปริพาชกว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับ
ไปเป็นธรรมดา.

ทีฆนขปริพาชกแสดงตนเป็นอุบาสก


[275] ลำดับนั้น ทีฆนขปริพาชกมีธรรมอันเห็นแล้ว มีธรรม
อันถึงแล้ว มีธรรมอันทราบแล้ว มีธรรมอันหยั่งลงแล้ว ข้ามความสงสัยได้
แล้ว ปราศจากความเคลือบแคลง ถึงความเป็นผู้แกล้วกล้า ไม่ต้องเชื่อต่อ
ผู้อื่นในคำสอนของพระศาสดา ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่ท่าน
พระโคดม ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ข้าแต่ท่านพระโคดม ภาษิตของ
พระองค์แจ่มแจ้งนัก เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอก
ทางให้แก่คนหลงทาง หรือตามประทีปในที่มืด ด้วยคิดว่า ผู้มีจักษุจักเห็น
รูป ดังนี้ ฉันใด ท่านพระโคดมทรงประกาศธรรม โดยอเนกปริยาย ฉันนั้น
เหมือนกัน ข้าพระองค์ขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า พระธรรม และพระภิกษุ-
สงฆ์ว่าเป็นสรณะ ขอท่านพระโคดมจงทรงจำข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสก ผู้ถึง
สรณะ ขอท่านพระโคดมจงทรงจำข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสก ผู้ถึงสรณะตลอด
ชีวิต ทั้งแต่วันนี้เป็นต้น ไป ดังนี้แล.

จบทีฆนขสูตรที่ 4

4. อรรถกถาทีฆนขสูตร


ทีฆนขสูตร

มีบทเริ่มต้นว่า เอวมฺเม สุตํ ข้าพเจ้าได้สดับมา
อย่างนี้.
ในบรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สูกรขาตายํ1 ณ ถ้ามีชื่ออย่างนี้ว่า
สูกรขาตา. มีเรื่องกล่าวไว้ว่า ครั้งศาสนาพระกัสสปพุทธเจ้า ถ้านั้นเกิดภายใน
พื้นแผ่นดินซึ่งงอกขึ้นในพุทธันดรหนึ่ง. อยู่มาวันหนึ่งสุกรตัวหนึ่งคุ้ยฝุ่นในที่
ใกล้เขตปิดถ้ำนั้น. เมื่อฝนตกได้ปรากฏเขตปิดเพราะถูกฝนชะ พรานป่าคนหนึ่ง
เห็นเข้าจึงคิดว่า เมื่อก่อนไม่มีผู้มีศีลอยู่ในถ้ำ. เราจักปรับปรุงถ้ำนั้น จึงขนฝุ่น
ออกกวาดถ้าให้สะอาด แล้วทำฝารอบด้านประกอบประตูหน้าต่าง ทำถ้ำให้มีบริ-
เวณลาดด้วยทรายดังแผ่นเงิน ทำอย่างวิจิตร ฉาบปูนขาวจนสำเร็จเรียบร้อยเป็น
อย่างดี แล้วปูเตียงและตั่งได้ถวายเป็นที่ประทับของพระผู้มีพระภาคเจ้า. ถ้ำลึก
ขึ้นลงสะดวก. บทว่า สูกรขาตายํ นี้ ท่านกล่าวหมายถึงถ้ำนั้น. บทว่า
ทีฆนโข เป็นชื่อของปริพาชกนั้น. บทว่า อุปสงฺกมิ เข้าไปเฝ้า เพราะ
เหตุไร ทีฆนขปริพาชกจึงเข้าไปเฝ้า. เล่ากันมาว่า ทีฆนขปริพาชกนั้น
เมื่อพระเถระบวชได้ครึ่งเดือนคิดว่า หลวงลุงของเราไปสู่ลัทธิอื่นที่ผิดแล้วดำรง
อยู่เป็นเวลานาน. แต่บัดนี้เมื่อหลวงลุงไปเฝ้าพระสมณโคดมได้ครึ่งเดือนแล้ว
ประสงค์จะไปด้วยหวังว่า เราจะฟังข่าวของหลวงลุงนั้น. เราจักรู้คำสอนอัน
รุ่งเรืองนั้นหนอ. เพราะฉะนั้น ทีฆนขะจึงเข้าไปเฝ้า. บทว่า เอกมนฺตํ ฐิโต
ได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนหนึ่ง นัยว่าในขณะนั้นพระเถระยืน2 ถวายงานพัดพระผู้-
มีพระภาคเจ้าอยู่. ปริพาชกด้วยมีหิริโอตตัปปะในหลวงลุง จึงยืนทูลถามปัญหา
ด้วยเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า เอกมนฺตํ ฐิโต ดังนี้. บทว่า สพฺพํ เม น ขมติ

1. บาลีว่า สูกรขตายํ. 2. บาลีว่า นิสินฺโน นั่ง.