เมนู

ท่านวัจฉโคตรสำเร็จเป็นพระอรหันต์


[267] ครั้งนั้นแล ท่านวัจฉโคตรชื่นชมยินดีพระภาษิตของพระผู้มี-
พระภาคเจ้า ลุกจากอาสนะ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า ทำประทักษิณแล้ว
หลีกไป ครั้นแล้วหลีกออกไปอยู่แต่ผู้เดียว เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มี
ตนส่งไปอยู่ไม่นานเท่าไร ก็ทำให้แจ้งซึ่งที่สุดของพรหมจรรย์ อันไม่มีธรรมอื่น
ยิ่งกว่า ที่กุลบุตรทั้งหลายผู้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ
ด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ ได้รู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว
พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้
มิได้มี ก็ท่านวัจฉโคตร ได้เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่ง ในจำนวนพระอรหันต์
ทั้งหลาย.
[268] ก็สมัยนั้น ภิกษุเป็นอันมากพากันไปเพื่อจะเฝ้าพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า ท่านพระวัจฉโคตรได้เห็นภิกษุเหล่านั้น ผู้กำลังเดินไปแต่ไกล จึงเข้า
ไปหาภิกษุเหล่านั้นจนถึงที่ใกล้ แล้วได้ถามว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ท่าน
ทั้งหลายจะไปไหนกัน.
ดูก่อนท่านผู้มีอายุ เราทั้งหลายจะไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า.
ดูก่อนผู้มีอายุทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น ขอท่านทั้งหลายจงถวายบังคมพระ-
บาทของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้า ตามคำของเราว่า ข้าแต่พระองค์ผู้
เจริญ วัจฉโคตรภิกษุกราบถวายบังคมพระบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วย
เศียรเกล้า และได้กราบทูลอย่างนี้ว่า ข้าพระองค์ได้บำเรอพระผู้มีพระภาคเจ้า
แล้ว ข้าพระองค์ได้บำเรอพระสุคตแล้ว ภิกษุเหล่านั้นรับคำท่านพระวัจฉโคตร
แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า
แล้ นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ท่าน

พระวัจฉโคตรถวายบังคมพระบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้า และสั่ง
ให้กราบทูลอย่างนี้ว่า ข้าพระองค์บำเรอพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ข้าพระองค์
บำเรอพระสุคตแล้ว.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากำหนดรู้ใจวัจฉโคตรภิกษุด้วยใจก่อนแล้วว่า
วัจฉโคตรภิกษุเป็นเตวิชชะ มีฤทธิ์ มีอานุภาพมาก แม้เทวดาทั้งหลายก็บอก
เนื้อความนี้แก่เราแล้วว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ วัจฉโคตรภิกษุเป็นเตวิชชะ
มีฤทธิ์ มีอานุภาพมาก.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว ภิกษุเหล่านั้นยินดี
ชื่นชมพระภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า ดังนี้แล.
จบมหาวัจฉโคตตสูตรที่ 3

3. อรรถกถามหาวัจฉสูตร1


มหาวัจฉสูตร

มีบทเริ่มต้นว่า เอวมฺเม สุตํ ข้าพเจ้าได้สดับมา
อย่างนี้.
ในบรรดาบทเหล่านั้นบทว่า สหกถี กล่าวร่วมกัน คือ ให้ระลึก
ถึงสิ่งที่ทำแล้ว ได้สืบไมตรีต่อกันมาว่า ข้าพเจ้าเคยกล่าวกับท่านมามากแล้ว.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสองสูตรก่อนแก่วัจฉปริพาชกนั้น. ตรัสอัพยาวัฏฏสังยุต
ในสังยุตตนิกายแก่วัจฉปริพาชกนั้น. ยังมีข้อความที่วัจฉปริพาชกกล่าวกับ
พระผู้มีพระภาคเจ้าไว้ในอังคุตตรนิกายอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ โลก
เที่ยงหรือหนอ สิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเป็นโมฆะ เพราะเหตุนั้น พระองค์ยัง
มิได้ทรงพยากรณ์ข้อนี้ไว้. เพราะฉะนั้น วัจฉปริพาชกจึงกล่าวอย่างนี้. แม้

1. บาลีเป็น มหาวัจฉโคตตสูตร.