เมนู

ในเวลาค่ำมืดเพราะเหตุแห่งท้องเช่นนั้น ไม่ดีเลย ดังนี้ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
เมื่อข้าพระองค์ระลึกถึงเรื่องนั้นอยู่ มีความคิดอย่างนี้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงนำธรรมอันเป็นเหตุแห่งทุกข์เป็นอันมากของเราทั้งหลายออกไปเสียได้หนอ
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงนำธรรมอันเป็นเหตุเเห่งสุขเป็นอันมากเข้ามาให้แก่เรา
ทั้งหลายหนอ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงนำอกุศลธรรมเป็นอันมากของเราทั้ง-
หลายออกไปเสียได้หนอ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงนำกุศลธรรมเป็นอันมากเข้า
มาให้แก่เราทั้งหลายหนอ.

อุปมาด้วยนางนกมูลไถ


[177] ก็อย่างนั้นแลอุทายี โมฆบุรุษบางพวกในธรรมวินัยนี้ เมื่อ
เรากล่าวว่า จงละโทษสิ่งนี้เสียเถิด เขากลับกล่าวอย่างนี้ว่า ทำไมจะต้องว่า
กล่าวเพราะเหตุแห่งโทษเพียงเล็กน้อยนี้เล่า พระสมณะนี้ช่างขัดเกลาหนักไป
เขาจึงไม่ละโทษนั้นด้วย ไม่เข้าไปตั้งความยำเกรงในเราด้วย ดูก่อนอุทายี อนึ่ง
โทษเพียงเล็กน้อยของภิกษุทั้งหลายผู้ใคร่ในสิกขานั้น ย่อมเป็นเครื่องผูกอันมี
กำลัง มั่น แน่นแฟ้น ไม่เปื่อย เป็นเหมือนท่อนไม้ใหญ่ ดูก่อนอุทายี เปรียบ
เหมือนนางนกมูลไถ ถ้าผูกไว้ด้วยเครื่องผูกคือเถาวัลย์หัวด้วน ย่อมรอเวลาที่
จะฆ่าหรือเวลาที่จะถูกมัดหรือเวลาตาย ในที่นั้นเอง ฉันใด ดูก่อนอุทายี ผู้ใด
พึงกล่าวอย่างนี้ว่า เครื่องดักคือเถาวัลย์หัวด้วนสำหรับเขาใช้ดักนางนกมูลไถ
ซึ่งมันรอเวลาที่จะถูกฆ่า หรือเวลาที่จะถูกมัด หรือเวลาตายนั้น เป็นเครื่อง
ผูกไม่มีกำลัง บอบบาง เปื่อย ไม่มีแก่น ดังนี้ ผู้นั้นเมื่อกล่าว ชื่อว่าพึง
กล่าวโดยชอบหรือหนอ.
ไม่ชอบ พระเจ้าข้า เครื่องดักคือเถาวัลย์หัวด้วนสำหรับเขาใช้ดักนาง
นกมูลไถ ซึ่งมันรอเวลาที่จะถูกฆ่า หรือเวลาที่จะถูกมัด หรือเวลาตายในที่

นั้นนั่นแล เป็นเครื่องผูกมีกำลัง มั่น แน่นแฟ้น ไม่เปื่อย เป็นเหมือน
ท่อนไม้ใหญ่ พระเจ้าข้า.
ดูก่อนอุทายี โมฆบุรุษบางพวกในธรรมวินัยนี้ ก็ฉันนั้น เมื่อเรา
กล่าวว่าจงละโทษนี้เสียเถิด เขากลับกล่าวอย่างนี้ว่า ทำไมจะต้องว่ากล่าวเพราะ
เหตุแห่งโทษเพียงเล็กน้อยนี้เล่า พระสมณะนี้ช่างขัดเกลาหนักไป เขาจึงไม่
ละโทษนั้นด้วย ไม่เข้าไปตั้งความยำเกรงในเราด้วย ดูก่อนอุทายี อนึ่ง โทษ
เพียงเล็กน้อยของภิกษุทั้งหลายผู้ใคร่ในสิกขานั้น เป็นเครื่องผูกมีกำลัง มั่น
แน่นแฟ้น ไม่เปื่อย เป็นเหมือนท่อนไม้ใหญ่.

อุปมาด้วยช้างต้น


[178] ดูก่อนอุทายี ส่วนกุลบุตรบางพวกในธรรมวินัยนี้ เมื่อเรา
กล่าวว่า จงละโทษนี้เสียเถิด เขากล่าวอย่างนี้ว่า ก็ทำไมจะต้องว่ากล่าวเพราะ
เหตุแห่งโทษเล็กน้อยเพียงที่ควรละนี้ ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสให้เราทั้งหลาย
ละ ซึ่งพระสุคตตรัสให้เราทั้งหลายสละคืนเล่า เขาย่อมละโทษนั้นด้วย เข้า
ไปตั้งความยำเกรงในเราด้วย อนึ่ง ภิกษุทั้งหลายเหล่าใดผู้ใคร่ในสิกขา ภิกษุ
ทั้งหลายเหล่านั้นละโทษนั้นแล้ว มีความขวนขวายน้อย มีขนตก เยียวยาชีวิต
ด้วยของที่ผู้อื่นให้ มีใจเป็นดุจมฤคอยู่ โทษเพียงเล็กน้อยของภิกษุเหล่านั้น
ย่อมเป็นเครื่องผูกไม่มีกำลัง บอบบาง เปื่อย ไม่มีแก่นสาร ดูก่อนอุทายี
เปรียบเหมือนช้างต้น มีงาอันงอนงาม เป็นราชพาหนะอันประเสริฐ เคยเข้า
สงคราม ควาญช้างผูกด้วยเชือกเป็นเครื่องผูกอันมั่น พอเอี้ยวกายไปหน่อยหนึ่ง
ก็ทำเครื่องผูกนั้นให้ขาดหมด ทำลายหมด แล้วหลีกไปได้ตามปรารถนา ฉันใด
ผู้ใดพึงกล่าวอย่างนี้ว่า ข้างต้นนั้น มีงาอันงอนงาม เป็นราชพาหนะอัน
ประเสริฐเคยเข้าสงคราม ควาญช้างผูกเชือกเป็นเครื่องผูกอันมั่นเหล่าใด พอ