เมนู

10. อปัณณกสูตร


ว่าด้วยพราหมณ์และคฤหบดีชาวบ้านศาลา


[103] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้.
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จจาริกไปในโกศลชนบท พร้อม
ด้วยภิกษุสงฆ์เป็นอันมาก เสด็จถึงพราหมณคามนามว่าศาลา ของชนชาวโกศล
พราหมณ์และคฤหบดีชาวบ้านศาลาได้สดับข่าวว่า พระสมณโคดมศากยบุตร
ผู้เจริญ เสด็จออกผนวชจากศากยสกุล เสด็จจาริกมาในโกศลชนบท พร้อม
ด้วยภิกษุสงฆ์เป็นอันมาก เสด็จถึงบ้านศาลาแล้ว ก็กิตติศัพท์อันงามแห่งพระ-
โคดมผู้เจริญนั้น ขจรไปแล้วอย่างนี้ว่า แม้เพราะเหตุนี้ ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและ
จรณะ เสด็จไปดี ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่ง
กว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้
จำแนกพระธรรม พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ทรงทำโลกนี้ พร้อมทั้ง
เทวโลก มารโลก พรหมโลก ให้แจ้งชัดด้วยพระปัญญาอันยิ่งของพระองค์
เองแล้ว ทรงสอนหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ ทั้งเทวดาและมนุษย์ให้รู้ตาม
ทรงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ทรงประกาศ
พรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถพร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ก็การ
ได้เห็นพระอรหันต์ทั้งหลาย เห็นปานนี้ ย่อมเป็นความดี.
ครั้งนั้น พราหมณ์และคฤหบดีข่าวบ้านศาลาพากันเข้าไปเฝ้าพระผู้มี-
พระภาคเจ้าถึงที่ประทับ บางพวกถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
บางพวกได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นผ่านการปราศัยพอให้ระลึกถึง

กันไปแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง บางพวกประนมอัญชลีไปทางที่พระผู้มี-
พระภาคเจ้าประทับ แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง บางพวกประกาศชื่อและ
โคตรในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง บางพวกนั่ง
นิ่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.

อปัณณกธรรม


[104] พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะพราหมณ์และคฤหบดีชาวบ้าน
ศาลาผู้นั่งเรียบร้อยแล้วว่า ดูก่อนคฤหบดีทั้งหลาย ศาสดาคนใดคนหนึ่ง ซึ่ง
เป็นที่ชอบใจของท่านทั้งหลาย เป็นที่ให้ท่านทั้งหลายได้ศรัทธาอันมีเหตุ มี
อยู่หรือ.
พราหมณ์และคฤหบดีกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ศาสดาคน
ใดคนหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ชอบใจของข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นที่ให้ข้าพระพุทธ-
เจ้าทั้งหลายได้ศรัทธาอันมีเหตุ หามีไม่.
ดูก่อนพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย เมื่อท่านทั้งหลายยังไม่ได้ศาสดา
ที่ชอบใจ พึงสมาทานอปัณณกธรรมนี้แล้วประพฤติ ด้วยว่าอปัณณกธรรมที่
ท่านทั้งหลายสมาทานให้บริบูรณ์เเล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อ
ความสุขแก่ท่านทั้งหลายสิ้นกาลนาน ดูก่อนพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ก็
อปัณณกธรรมนั้นเป็นไฉน.

วาทะที่เป็นข้าศึกกัน


[105] ดูก่อนพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย มีสมณพราหมณ์พวก
หนึ่ง มีวาทะอย่างนี้ มีความเห็นอย่างนี้ว่า ทานทีให้แล้วไม่มีผล การบวง-
สรวงไม่มีผล การบูชาไม่มีผล ผลวิบากแห่งกรรมที่สัตว์ทำดีทำชั่วไม่มี โลก