เมนู

อานนท์ แม้เวทนา 2 เราได้กล่าวแล้วโดยปริยาย ถึงเวทนา 3 เวทนา 4
เวทนา 5 เวทนา 6 เวทนา 18 เวทนา 36 เวทนา 108 เราก็กล่าวแล้วโดยปริยาย
ดูก่อนอานนท์ ธรรมอันเราแสดงแล้วโดยปริยายอย่างนี้แล ผู้ใดไม่รู้ตามด้วย
ดี ไม่สำคัญตามด้วยดี ไม่ยินดีตามด้วยดี ซึ่งคำที่กล่าวดี พูดดี ของกันและ
กัน ในธรรมที่เราแสดงโดยปริยายอย่างนี้แล้ว ผู้นั้นจะได้ผลอันนี้ คือ จัก
บาดหมาง ทะเลาะวิวาท ทิ่มแทงกันและกันด้วยหอกคือปากอยู่ ดูก่อนอานนท์
ธรรมอันเราแสดงแล้วโดยปริยายอย่างนี้ผู้ใดรู้ตามด้วยดี สำคัญตามด้วยดี ยินดี
ตามด้วยดี ซึ่งคำที่กล่าวดี พูดดี ของกันแลกัน ในธรรมที่เราแสดงโดยปริ-
ยายอย่างนี้แล้ว ผู้นั้นจะได้ผลอันนี้ คือ จักพร้อมเพรียง บันเทิง ไม่วิวาท
กัน เป็นเหมือนน้ำนมระคนกับน้ำ แลดูกันด้วยสายตาเป็นที่อยู่.

กามคุณ 5


[100] ดูก่อนอานนท์ กามคุณ 5 นี้เป็นไฉน คือ รูปอันจะพึงรู้
ด้วยจักษุ อันสัตว์ปรารถนา ใคร่ พอใจ เป็นที่รัก ประกอบด้วยกามเป็นที่ตั้ง
แห่งความกำหนัด เสียงอันจะพึงรู้โดยโสตะ. . .กลิ่นอันจะพึงรู้ด้วยฆานะ. . . รส
อันจะพึงรู้ด้วยชิวหา . . . โผฏฐัพพะอันจะพึงรู้ด้วยกาย อันสัตว์ปรารถนา ใคร่
พอใจ เป็นที่รัก ประกอบด้วยกามเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด ดูก่อนอานนท์
นี้แลกามคุณ 5 สุขโสมนัสอันใดย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัยกามคุณ 5 นี้ สุขและ
โสมนัสนี้ เรากล่าวว่ากามสุข.

สุขในรูปฌานและอรูปฌาน


[101] ดูก่อนอานนท์ เราไม่ยอมรับรู้ถ้อยคำของผู้ที่กล่าวอย่างนี้ว่า
สัตว์ทั้งหลายย่อมเสวยสุขโสมนัส มีกามสุขนี้เป็นอย่างยิ่ง ข้อนี้เพราะเหตุไร
เพราะสุขอื่นที่ดียิ่งกว่า และประณีตกว่าสุขนี้ยังมีอยู่.

ดูก่อนอานนท์ สุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและประณีตกว่าสุขนี้เป็นไฉน ดูก่อน
อานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมบรรลุปฐมฌาน
มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่ นี้แล อานนท์ สุขอื่นที่ดียิ่งกว่า
และประณีตกว่าสุขนี้ เราไม่ยอมรับรู้ถ้อยคำของผู้ที่กล่าวอย่างนี้ว่า สัตว์ทั้งหลาย
ย่อมเสวยสุขโสมนัส มีกามสุขนี้เป็นอย่างยิ่ง ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะสุขอื่น
ที่ดียิ่งกว่า และประณีตกว่าสุขนี้ยังมีอยู่.
ดูก่อนอานนท์ สุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและประณีตกว่าสุขนี้เป็นไฉน ดูก่อน
อานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ บรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน
เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติและ
สุขเกิดแต่สมาธิอยู่ นี้แล อานนท์ สุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและประณีตกว่าสุขนี้ เรา
ไม่ยอมรับรู้ถ้อยคำของผู้ที่กล่าวอย่างนี้ว่า สัตว์ทั้งหลายย่อมเสวยสุขโสมนัส มี
กามสุขนี้เป็นอย่างยิ่ง ข้อนั้น เพราะเหตุไร เพราะสุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและประณีต
กว่าสุขนี้ยังมีอยู่.
ดูก่อนอานนท์ สุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและประณีตกว่าสุขนี้เป็นไฉน ดูก่อน
อานนท์ภิกษุในธรรมวินัยนี้ มีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะและเสวยสุขด้วยน้ำมันกาย
เพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌานที่พระอริยะทั้งหลายสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้
เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุข นี้แล อานนท์ สุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและประณีต
กว่าสุขนี้ เราไม่ยอมรับรู้ถ้อยคำของผู้ที่กล่าวอย่างนี้ว่า สัตว์ทั้งหลายย่อมเสวยสุข
โสมนัสมีกามสุขนี้เป็นอย่างยิ่ง ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะสุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและ
ประณีตกว่าสุขนี้ ยังมีอยู่.
ดูก่อนอานนท์ สุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและประณีตกว่าสุขนี้เป็นไฉน ดูก่อน
อานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ บรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุข

ละทุกข์และดับโสมนัสโทมนัสก่อน ๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่
นี้แลอานนท์ สุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและประณีตกว่าสุขนี้ เราไม่ยอมรับรู้ถ้อยคำของ
ผู้ที่กล่าวอย่างนี้ว่า สัตว์ทั้งหลายย่อมเสวยสุขโสมนัส มีกามสุขนี้เป็นอย่างยิ่ง ข้อ
นั้นเพราะเหตุไร เพราะสุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและประณีตกว่าสุขนี้ยังมีอยู่.
ดูก่อนอานนท์ สุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและประณีตกว่าสุขนี้เป็นไฉน ดูก่อน
อานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ บรรลุอากาสานัญจายตนฌานด้วยมนสิการว่า
อากาศไม่มีที่สุด เพราะล่วงรูปสัญญาได้โดยประการทั้งปวง เพราะดับปฏิฆ-
สัญญาได้ เพราะไม่มนสิการนานัตตสัญญาอยู่ นี้แล อานนท์ สุขอื่นที่ดียิ่งกว่า
และประณีตกว่าสุขนี้.
ดูก่อนอานนท์ สุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและประณีตกว่าสุขนี้เป็นไฉน ดูก่อน
อานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ บรรลุวิญญาณัญจายตนฌานด้วยมนสิการว่า วิญ-
ญาณไม่มีที่สุด เพราะล่วงอากาสานัญจายตนะได้โดยประการทั้งปวงอยู่ นี้แล
อานนท์ สุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและประณีตกว่าสุขนี้.
ดูก่อนอานนท์ สุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและประณีตกว่าสุขนี้เป็นไฉน ดูก่อน
อานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ บรรลุอากิญจัญญายตนฌานด้วยมนสิการว่า อะไรๆ
ก็ไม่มีเพราะล่วงวิญญาณัญจายตนะได้โดยประการทั้งปวงอยู่ นี้แล อานนท์
สุขอื่นอันดียิ่งกว่าและประณีตกว่าสุขนี้.
ดูก่อนอานนท์ สุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและประณีตกว่าสุขนี้เป็นไฉน ดูก่อน
อานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ บรรลุเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน เพราะล่วง
อากิญจัญญายตนะได้โดยประการทั้งปวงอยู่ นี้แล อานนท์ สุขอื่นที่ดียิ่งกว่า
และประณีตกว่าสุขนี้.

[102] ดูก่อนอานนท์ เราไม่ยอมรับรู้ถ้อยคำของผู้กล่าวอย่างนี้ว่า
สัตว์ทั้งหลายย่อมเสวยสุขโสมนัส มีกามสุขนี้เป็นอย่างยิ่ง ข้อนั้นเพราะเหตุไร
ดูก่อนอานนท์ เพราะสุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและประณีตกว่าสุขนี้ ยังมีอยู่.
ดูก่อนอานนท์ สุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและประณีตกว่าสุขนี้เป็นไฉน ดูก่อน
อานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ บรรลุสัญญาเวทยิตนิโรธ เพราะล่วงเนวสัญญา-
นาสัญญายตนะได้โดยประการทั้งปวงอยู่ นี้แล อานนท์ สุขอื่นที่ดียิ่งกว่าและ
ประณีตกว่าสุขนี้.
ดูก่อนอานนท์ ข้อที่อัญญเดียรถีย์ปริพาชกจะพึงกล่าวอย่างนี้ว่า พระ-
สมณโคดมตรัสสัญญาเวทยิตนิโรธไว้แล้ว แต่บัญญัติลงในสุข ข้อนี้นั้นจะเป็น
ไฉนเล่า ข้อนี้นั้นเป็นอย่างไรเล่า ดังนี้ เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูก่อนอานนท์
อัญญเดียรถีย์ปริพาชกผู้มีวาทะอย่างนี้ ท่านควรจะกล่าวตอบว่า ดูก่อนอาวุโส
พระผู้มีพระภาคเจ้าจะทรงหมายสุขเวทนาอย่างเดียว แล้วบัญญัติไว้ในสุขหามิ
ได้ แต่บุคคลได้สุขในที่ใด ๆ พระตถาคตย่อมบัญญัติที่นั้น ๆ ไว้ในสุข.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว ท่านพระอานนท์ชื่นชม
ยินดีพระภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า ดังนี้แล.

จบพหุเวทนิยสูตรที่ 9

9. อรรถกถาพหุเวทนิสูตร


พหุเวทนิยสูตร

มีบทเริ่มต้นว่า เอวมฺเม สุตํ ข้าพเจ้าได้ฟังมา
แล้วอย่างนี้.
ในบรรดาบทเหล่านั้น คำว่า ปัญจกังคะ ในคำว่า ปญฺจกงฺโค
ถปติ
เป็นชื่อของนายช่างไม้นั้น. เขารู้กันทั่วไปว่า ปัญจกังคะ ก็เพราะ
เป็นผู้ประกอบด้วยเครื่องมือ 5 อย่าง กล่าวคือ มีด ขวาน สิ่ว ค้อน และ
สายบรรทัด. คำว่า นายช่างไม้ คือเป็นหัวหน้าช่างไม้. คำว่า อุทายี คือ
ท่านพระอุทายีเถระผู้เป็นบัณฑิต. คำว่า ปริยายํ แปลว่า เหตุ. คำว่า เทฺวปา-
นนฺท
แยกสนธิว่า เทฺวปิ อานนฺท. คำว่า ปริยาเยน คือ ด้วยเหตุ.
ก็บรรดาเวทนาเหล่านั้น พึงทราบว่า เวทนามี 2 คือ เวทนาที่เป็น
ไปทางกาย และเป็นไปทางใจ. มี 3 มีสุขเวทนาเป็นต้น. ว่าโดยอินทรีย์มี 5
มีสุขินทรีย์เป็นต้น. ว่าโดยทวารมี 6 มีจักขุสัมผัสสชาเวทนาเป็นต้น, ว่าโดย
อุปวิจารมี 18 เป็นต้นว่า เห็นรูปด้วยจักษุแล้วก็ควรพิจารณารูป ที่เป็นที่ตั้ง
แห่งโสมนัส ดังนี้. มี 36 อย่างนี้คือ โสมนัสที่อาศัยเรือน 6 โสมนัสที่อาศัย
เนกขัมมะ 6 โทมนัสที่อาศัยเนกขัมมะ 6 โทมนัสที่อาศัยเรือน 6 อุเบกขาที่
อาศัยเรือน 6 อุเบกขาที่อาศัยเนกขัมมะ 6. พึงทราบว่าเวทนาเหล่านั้น คือ
อดีต 36 อนาคต 36 ปัจจุบัน 36 รวมเป็น 108.
พระวาจาว่า ปญฺจ โข อิเม อานนฺท กามคุณา นี้เป็นอนุสนธิ
แยกคนละส่วน แท้จริง พระผู้มีพระภาคเจ้า มิใช่ทรงบัญญัติเวทนาตั้งต้นเพียง
2 เท่านั้น ยังตรัสเวทนาแม้เพียง 1 ไว้โดยปริยายก็มี เมื่อจะทรงแสดงเวทนานั้น