เมนู

9. พหุเวทนิยสูตร


ว่าด้วยช่างไม้ชื่อปัญจกังคะ


[97] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้.
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ เชตวนาราม ของอนาถ-
บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น นายช่างไม้ชื่อ ปัญจกังคะ
เข้าไปหาท่านพระอุทายี นมัสการแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.

กถาว่าด้วยเวทนา


[98] นายช่างไม้ชื่อปัญจกังคะ นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้ว
ได้กล่าวกะท่านพระอุทายีว่า ท่านพระอุทายี พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเวทนา
ไว้เท่าไร ท่านพระอุทายีตอบว่า ดูก่อนคฤหบดี พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเวทนา
ไว้ 3 ประการ คือสุขเวทนา 1 ทุกขเวทนา 1 อทุกขมสุขเวทนา 1 ดูก่อน
คฤหบดี พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเวทนาไว้ 3 ประการนี้แล.
ป. ข้าแต่ท่านพระอุทายี พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ได้ตรัสเวทนาไว้ 3
ประการ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเวทนาไว้ 2 ประการ คือ สุขเวทนา 1 ทุกข-
เวทนา 1 เพราะอทุกขมสุขเวทนาพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ในสุขอันสงบ อัน
ประณีตแล้ว.
ท่านพระอุทายีได้กล่าวเป็นครั้งที่ 2 ว่า ดูก่อนคฤหบดี พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าไม่ได้ตรัสเวทนาไว้ 2 ประการ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเวทนาไว้ 3
ประการ คือสุขเวทนา 1 ทุกขเวทนา 1 อทุกขมสุขเวทนา 1 ดูก่อนคฤหบดี
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเวทนาไว้ 3 ประการนี้แล.

นายช่างไม้ชื่อปัญจกังคะก็ได้กล่าวยืนคำเป็นครั้งที่ 2 ว่า ข้าแต่ท่าน
พระอุทายี พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ได้ตรัสเวทนาไว้ 3 ประการ พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสเวทนาไว้ 2 ประการ คือ สุขเวทนา 1 ทุกขเวทนา 1 เพราะ
อทฺกขมสุขเวทนา พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ในสุขอันสงบ อันประณีตแล้ว.
ท่านพระอุทายีได้กล่าวเป็นครั้งที่ 3 ว่า ดูก่อนคฤหบดี พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าไม่ได้ตรัสเวทนาไว้ 2 ประการ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเวทนาไว้ 3
ประการ คือ สุขเวทนา 1 ทุกขเวทนา 1 อทุกขมสุขเวทนา 1 ดูก่อนคฤหบดี
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเวทนาไว้ 3 ประการนี้แล.
นางช่างไม้ชื่อปัญจกังคะได้กล่าวเป็นครั้งที่ 3 ว่า ท่านพระอุทายี พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าไม่ได้ตรัสเวทนาไว้ 3 ประการ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเวทนา
ไว้ 2 ประการ คือ สุขเวทนา 1 ทุกขเวทนา 1 เพราะอทุกขมสุขเวทนา พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ในสุขอันสงบ อันประณีตแล้ว.
ท่านพระอุทายีไม่สามารถจะให้นายช่างไม้ชื่อปัญจกังคะยินยอมได้ นาย
ช่างไม้ชื่อปัญจกังคะก็ไม่สามารถจะให้ท่านพระอุทายียินยอมได้.
[99] ท่านพระอานนท์ได้สดับถ้อยคำเจรจาของท่านพระอุทายีกับนาย
ช่างไม้ชื่อปัญจกังคะ จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคม
พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ได้กราบทูลถ้อยคำเจรจา
ของท่านพระอุทายีกับนายช่างไม้ชื่อปัญจกังคะทั้งหมดแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
เมื่อท่านพระอานนท์กราบทูลอย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อน
อานนท์ นายช่างไม้ชื่อปัญจกังคะไม่ยอมตามบรรยายอันมีอยู่ของพระอุทายี
และพระอุทายีก็ไม่ยอนตามบรรยายอันมีอยู่ของนายช่างไม้ชื่อปัญจกังคะ ดูก่อน

อานนท์ แม้เวทนา 2 เราได้กล่าวแล้วโดยปริยาย ถึงเวทนา 3 เวทนา 4
เวทนา 5 เวทนา 6 เวทนา 18 เวทนา 36 เวทนา 108 เราก็กล่าวแล้วโดยปริยาย
ดูก่อนอานนท์ ธรรมอันเราแสดงแล้วโดยปริยายอย่างนี้แล ผู้ใดไม่รู้ตามด้วย
ดี ไม่สำคัญตามด้วยดี ไม่ยินดีตามด้วยดี ซึ่งคำที่กล่าวดี พูดดี ของกันและ
กัน ในธรรมที่เราแสดงโดยปริยายอย่างนี้แล้ว ผู้นั้นจะได้ผลอันนี้ คือ จัก
บาดหมาง ทะเลาะวิวาท ทิ่มแทงกันและกันด้วยหอกคือปากอยู่ ดูก่อนอานนท์
ธรรมอันเราแสดงแล้วโดยปริยายอย่างนี้ผู้ใดรู้ตามด้วยดี สำคัญตามด้วยดี ยินดี
ตามด้วยดี ซึ่งคำที่กล่าวดี พูดดี ของกันแลกัน ในธรรมที่เราแสดงโดยปริ-
ยายอย่างนี้แล้ว ผู้นั้นจะได้ผลอันนี้ คือ จักพร้อมเพรียง บันเทิง ไม่วิวาท
กัน เป็นเหมือนน้ำนมระคนกับน้ำ แลดูกันด้วยสายตาเป็นที่อยู่.

กามคุณ 5


[100] ดูก่อนอานนท์ กามคุณ 5 นี้เป็นไฉน คือ รูปอันจะพึงรู้
ด้วยจักษุ อันสัตว์ปรารถนา ใคร่ พอใจ เป็นที่รัก ประกอบด้วยกามเป็นที่ตั้ง
แห่งความกำหนัด เสียงอันจะพึงรู้โดยโสตะ. . .กลิ่นอันจะพึงรู้ด้วยฆานะ. . . รส
อันจะพึงรู้ด้วยชิวหา . . . โผฏฐัพพะอันจะพึงรู้ด้วยกาย อันสัตว์ปรารถนา ใคร่
พอใจ เป็นที่รัก ประกอบด้วยกามเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด ดูก่อนอานนท์
นี้แลกามคุณ 5 สุขโสมนัสอันใดย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัยกามคุณ 5 นี้ สุขและ
โสมนัสนี้ เรากล่าวว่ากามสุข.

สุขในรูปฌานและอรูปฌาน


[101] ดูก่อนอานนท์ เราไม่ยอมรับรู้ถ้อยคำของผู้ที่กล่าวอย่างนี้ว่า
สัตว์ทั้งหลายย่อมเสวยสุขโสมนัส มีกามสุขนี้เป็นอย่างยิ่ง ข้อนี้เพราะเหตุไร
เพราะสุขอื่นที่ดียิ่งกว่า และประณีตกว่าสุขนี้ยังมีอยู่.