เมนู

7. กุกกุโรวาทสูตร


ว่าด้วยปุณณโกลิยบุตรและเสนิยอเจละ


[84] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้.
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพุระภาคเจ้าเสด็จประทับอยู่ในโกลิยชนบท ทรงทำ
นิคมของชาวโกลิยะ ชื่อว่าหลิททวสนะให้เป็นโคจรคาม ครั้งนั้นปุณณโก-
ลิยบุตร
ผู้ประพฤติวัตรดังโค และเสนิยอเจละ ผู้ประพฤติวัตรดังสุนัข เข้า
ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ แล้วปุณณโกลิยบุตรผู้ประพฤติวัตรดัง
โค ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ฝ่ายเสนิย-
อเจละผู้พระพฤติวัตรดังสุนัข ได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นผ่านการ
ปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว ก็คุ้ยเขี่ยดุจสุนัขแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้าง
หนึ่ง ปุณณโกลิยบุตรผู้ประพฤติวัตรดังโค ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เสนิยอเจละนี้ ประพฤติวัตรดังสุนัข ทำกรรมยากที่ผู้อื่น
จะทำได้ บริโภคโภชนะที่วางไว้ ณ พื้นดิน เขาสมาทานกุกกุรวัตรนั้นอย่าง
บริบูรณ์ สิ้นกาลนาน คติของเขาจะเป็นอย่างไร ภพหน้าของเขาจะเป็นอย่างไร.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสห้ามว่า อย่าเลย ปุณณะ จงงดข้อนี้เสียเถิด
อย่าถามเราถึงข้อนี้เลย. ปุณณโกลิยบุตรผู้ประพฤติวัตรดังโค ได้ทูลถามพระผู้-
มีพระภาคเจ้าเป็นครั้งที่ 2 ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เสนิยอเจละ ประพฤติ
วัตรดังสุนัข ทำกรรมยากที่ผู้อื่นจะทำได้ บริโภคโภชนะที่วางไว้ ณ พื้นดิน
เขาสมาทานกุกกุรวัตรนั้นอย่างบริบูรณ์สิ้นกาลนานคติของเขาจะเป็นอย่างไร
ภพหน้าของเขาจะเป็นอย่างไร. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสห้ามว่า อย่าเลย ปุณณะ
จงงดข้อนี้เสียเถิด อย่าถามเราถึงข้อนี้เลย. ปุณณโกลิยบุตร ผู้ประพฤติวัตร

ดังโค ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นครั้งที่ 3 ว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
เสนิยอเจละ พระพฤติวัตรดังสุนัข ทำกรรมยากที่ผู้อื่นจะทำได้ บริโภคโภชนะ
ที่วางไว้ ณ พื้นดิน เขาสมาทานกุกกุรวัตรนั้นอย่างบริบูรณ์สิ้นกาลนาน คติของ
เขาจักเป็นอย่างไร ภพหน้าของเขาจักเป็นอย่างไร.
[85] พ. ดูก่อนปุณณะ เราไม่ได้จากท่านเป็นแน่ซึ่งคำนี้ว่า อย่า
เลยปุณณะ จงงดข้อนั้นเสียเถิด อย่าถามเราถึงข้อนั้นเลย ดังนี้ แต่เราจัก
พยากรณ์แก่ท่าน ดูก่อนปุณณะ บุคคลบางคนในโลกนี้บำเพ็ญกุกกุรวัตร
บำเพ็ญปกติของสุนัข บำเพ็ญกิริยาอาการของสุนัขให้บริบูรณ์ ไม่ขาดสาย ครั้น
แล้วเมื่อตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของสุนัข อนึ่ง ถ้าเขามีความ
เห็นอย่างนี้ว่า เราจักเป็นเทวดาหรือเทพองค์ในองค์หนึ่ง ด้วยศีล วัตร ตบะ
หรือพรหมจรรย์นี้ ความเห็นของเขานั้นเป็นความเห็นผิด ดูก่อนปุณณะ เรา
กล่าวคติของผู้เห็นผิดว่ามี 2 อย่าง คือ นรกหรือกำเนิดสัตว์ดิรัจฉานอย่างใด
อย่างหนึ่ง ดูก่อนปุณณะ กุกกุรวัตรเมื่อถึงพร้อม ย่อมนำเข้าถึงความเป็น
สหายของสุนัข เมื่อวิบัติย่อมนำเข้าถึงนรก ด้วยประการฉะนี้. เมื่อพระผู้มี-
พระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว เสนิยอเจละผู้ประพฤติวัตรดังสุนัข ร้องให้น้ำตา
ไหล.

คติของผู้ประพฤติวัตรดังโค


[86] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะปุณณโกลิยบุตรผู้
ประพฤติวัตรดังโคว่า ดูก่อนปุณณะ เราไม่ได้คำนี้จากท่านว่า อย่าเลยปุณณะ
จงงดข้อนั้นเสียเถิด อย่าถามเราถึงข้อนั้นเลย ดังนี้. เสนิยอเจละทูลว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ ข้าพเจ้ามิได้ร้องไห้ถึงการพยากรณ์นั้น ที่พระผู้มีพระภาคเจ้า