เมนู

ทีฆตปัสสีนิครนถ์ ได้กล่าวกะนิครถ์นาฏบุตรเป็นครั้งที่ 3 ว่า ข้าแต่
ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าได้ฟังข่าวนี้มาว่า อุบาลีคฤหบดีเข้าถึงความเป็นสาวกของ
พระสมณโคดมแล้ว .
นา. ดูก่อนตปัสสี ข้อที่อุบาลีคฤหบดีจะพึงเข้าถึงความเป็นสาวกของ
พระสมณโคดมนั้น มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส แต่ข้อที่พระสมณโคดมจะพึงเข้า
ถึงความเป็นสาวกของอุบาลีคฤหบดีนั้น เป็นฐานะที่จะมีได้.
ที. ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เอาเถอะ ข้าพเจ้าจะไป เพียงเพื่อจะทราบว่า
อุบาลีคฤหบดีเข้าถึงความเป็นสาวกของพระสมณโคดมแล้ว หรือหาไม่.
นา. ดูก่อนตปัสสี ท่านจงไป จงรู้ว่า อุบาลีคฤหบดีเข้าถึงความเป็น
สาวกของพระสมณโคดม หรือหาไม่.

ห้ามพวกเดียรถีย์เข้าบ้าน


[77] ครั้งนั้น ทีฆตปัสสีนิครนถ์ จึงเข้าไปยังนิเวศน์ของอุบาลี
คฤหบดี นายประตูได้เห็นทีฆตปัสสีนิครนถ์มาแต่ไกลเทียว ครั้นแล้วจึงกล่าว
ว่า จงหยุดเถิดท่านผู้เจริญ อย่าเข้ามาเลย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อุบาลี
คฤหบดีเข้าถึงความเป็นสาวกของพระสมณโคดมแล้ว ท่านปิดประตูแก่พวก
นิครนถ์ แก่พวกนางนิครนถ์ เปิดประตูเพื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าและสาวกของ
พระผู้มีพระภาคเจ้า คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ท่านผู้เจริญ ถ้าท่าน
มีความต้องการอาหาร จงหยุดอยู่ที่นี้แหละ ชนทั้งหลายจักนำมาเพื่อท่าน ณ
ที่นี้.
ทีฆตปัสสีกล่าวว่า ผู้มีอายุ เรายังไม่ต้องการอาหารดอก แล้วกลับ
จากที่นั้น เข้าไปหานิครนถ์นาฎบุตรถึงที่อยู่ แล้วได้กล่าวว่า ข้าแต่ท่านผู้

เจริญ ข้อที่อุบาลีคฤหบดีเข้าถึงความเป็นสาวกของพระสมณโคดมนั้น เป็น
ความจริงทีเดียว ข้าพเจ้าไม่ได้คำที่ข้าพเจ้ากล่าวว่า ข้อที่อุบาลีคฤหบดีจะพึง
ยกวาทะแก่พระสมณโคดมนั้น ข้าพเจ้าไม่ชอบใจเลย ด้วยว่า พระสมณโคดม
เป็นคนมีมายา ย่อมรู้มายาเป็นเครื่องกลับใจสาวกของพวกอัญญเดียรถีย์ ดังนี้
จากท่าน ข้าแต่ท่านผู้เจริญ อุบาลีคฤหบดีของท่าน ถูกพระสมณโคดมกลับใจ
ด้วยมายาอันเป็นเครื่องกลับใจเสียแล้ว.
นา. ดูก่อนตปัสสี ข้อที่อุบาลีคฤหบดีจะเข้าถึงความเป็นสาวกของ
พระสมณโคดมนั้น มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส แต่ข้อที่พระสมณโคดม จะพึงเข้า
ถึงความเป็นสาวกของอุบาลีคฤหบดีนั้น เป็นฐานะที่จะมีได้.
ทีฆตปัสสีนิครนถ์ ได้กล่าวเป็นครั้งที่ 2 ว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้อ
ที่อุบาลีคฤหบดีเข้าถึงความเป็นสาวกของพระสมณะโคดมนั้น เป็นความจริง
ทีเดียว ข้าพเจ้าไม่ได้คำที่ข้าพเจ้ากล่าวว่า ข้อที่อุบาลีคฤหบดีจะพึงยกวาทะแก่
พระสมณโคดมนั้น ข้าพเจ้าไม่ชอบใจเลย ด้วยว่าพระสมณโคดมเป็นคนมีมายา
ย่อมรู้มายาเป็นเครื่องกลับใจสาวกของพวกอัญญเดียรถีย์ ดังนี้ จากท่าน ข้า
แต่ท่านผู้เจริญ อุบาลีคฤหบดีของท่าน ถูกพระสมณโคดมกลับใจ ด้วยมายา
อันเป็นเครื่องกลับใจเสียแล้ว.
นา. ดูก่อนตปัสสี ข้อที่อุบาลีคฤหบดี จะพึงเข้าถึงความเป็นสาวกของ
พระสมณโคดมนั้น มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส แต่ข้อที่พระสมณโคดมจะพึงเข้า
ถึงความเป็นสาวกของอุบาลีคฤหบดีนั้น เป็นฐานะที่จะมีได้ แล้วกล่าวต่อไป
ว่า เอาเถอะ ตปัสสี เราจะไป เพียงเพื่อจะรู้เองทีเดียวว่า อุบาลีคฤหบดี
เข้าถึงความเป็นสาวกของพระสมณโคดมจริงหรือไม่.

[78] ลำดับนั้น นิครนถ์นาฏบุตร พร้อมด้วยนิครนถ์บริษัทเป็น
อันมาก เข้าไปยังนิเวศน์ของอุบาลีคฤหบดี นายประตูได้เห็นนิครนถ์นาฏบุตร
มาแต่ไกล ได้กล่าวว่า จงหยุดเถิด ท่านผู้เจริญ อย่าเข้ามา ตั้งแต่วันนี้เป็น
ต้นไป อุบาลีคฤหบดีเข้าถึงความเป็นสาวกของพระสมณโคดมแล้ว ท่านปิด
ประตูแก่พวกนิครนถ์ แก่พวกนางนิครนถ์แล้ว ท่านเปิดประตูเพื่อพระผู้มี-
พระภาคเจ้าและสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบา-
สิกา ท่านผู้เจริญ ถ้าท่านต้องการอาหาร จงหยุดอยู่ที่นี่แหละ ชนทั้งหลาย
จักนำมาเพื่อท่าน ณ ที่นี้.
นา. นายประตูผู้เป็นสหาย ถ้าอย่างนั้น ท่านจงเข้าไปหาอุบาลีคฤหบดี
แล้วจงกล่าวอย่างนี้ว่า นิครนถ์นาฏบุตรพร้อมด้วยนิครนถ์บริษัทเป็นอันมาก
มายืนอยู่ที่ซุ้มประตูข้างนอก เขาอยากจะพบท่าน. นายประตูรับคำนิครนถ์
นาฏบุตรแล้ว เข้าไปหาอุบาลีคฤหบดี แล้วได้เรียนว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ
นิครนถ์นาฏบุตรพร้อมด้วยนิครนถ์บริษัทเป็นอันมาก มายืนอยู่ที่ซุ้มประตูข้าง
นอก เขาอยากจะพบท่าน.
อุ. ดูก่อนนายประตูเป็นสหาย ถ้าอย่างนั้น ท่านจงปูลาดอาสนะไว้
ที่ศาลาประตูกลาง นายประตูรับคำอุบาลีคฤหบดีแล้ว ปูลาดอาสนะไว้ที่ศาลา
ประตูกลาง แล้วเข้าไปหาอุบาลีคฤหบดี แล้วได้เรียนว่า ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้า
ปูอาสนะไว้ที่ศาลาประตูกลางแล้ว ท่านย่อมสำคัญกาลอันควร ณ บัดนี้. ลำดับ
นั้นอุบาลีคฤหบดี เข้าไปยังประตูกลาง แล้วนั่งบนอาสนะอันเลิศ ประเสริฐ
อุดม และประณีต อันมีอยู่ ณ ที่นั้นเสียเอง แล้วเรียกนายประตูมาว่า นาย-
ประตูผู้เป็นสหาย ถ้าอย่างนั้น ท่านจงเข้าไปหานิครนถ์นาฏบุตร จงกล่าวอย่าง
นี้ว่า ท่านผู้เจริญ อุบาลีคฤหบดีกล่าวอย่างนี้ว่า เชิญท่านเข้าไปเถิด ถ้าท่าน

จำนง. นายประตูรับคำอุบาลีคฤหบดี เข้าไปหานิครนถ์นาฏบุตร แล้วได้กล่าว
ว่าท่านผู้เจริญ อุบาลีคฤหบดีกล่าวอย่างนี้ว่า ท่านผู้เจริญ เชิญท่านเข้าไปเถิด
ถ้าท่านจำนง. ลำดับนั้น นิครนถ์นาฏบุตรพร้อมด้วยนิครนถ์บริษัทเป็นอันมาก
เข้าไปยังศาลาประตูกลาง.
[79] ครั้งนั้นแล ได้ยินว่า แต่ก่อนอุบาลีคฤหบดีเห็นนาฎบุตรมา
แต่ไกลเท่าใด แล้วต้อนรับแต่ที่เท่านั้น เอาผ้าห่มกวาดอาสนะที่เลิศ ประเสริฐ
อุดม และประณีต อันมีอยู่ ณ ที่นั้น แล้วกำหนดให้นั่ง บัดนี้ ท่านอุบาลี-
คฤหบดีนั่งบนอาสนะที่เลิศ ประเสริฐ อุดม และประณีต อันมีอยู่ ณ ที่นั้น
เสียเอง แล้วได้กล่าวกะนิครนถ์นาฏบุตรว่า ท่านผู้เจริญ อาสนะมีอยู่
ถ้าท่านหวังเชิญนั่งเถิด. เมื่ออุบาลีคฤหบดีกล่าวอย่างนี้แล้ว นิครนถ์นาฏบุตร
ได้กล่าวว่า ท่านเป็นบ้าเสียแล้วหรือ คฤหบดี ท่านเป็นคนเขลาเสียแล้วหรือ
คฤหบดี ท่านกล่าวว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าจะไป จักยกวาทะแก่พระ-
สมณโคดม ครั้นไปแล้ว กลับถูกวาทะดุจไม้ขื่ออันใหญ่สวมมาแล้วหรือ ดูก่อน
คฤหบดี เปรียบเหมือนบุรุษผู้นำอัณฑะไป ถูกควักอัณฑะออก กลับมาฉันใด
ดูก่อนคฤหบดี อนึ่ง เปรียบเหมือนบุรุษนำดวงตาไป ถูกควักดวงตากลับมา
ฉันใด ดูก่อนคฤหบดี ท่านก็ฉันนั้นแล กล่าวว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้า
จะไป จักยกวาทะแก่พระสมณโคดม ครั้นไปแล้ว กลับถูกวาทะดุจไม้ขื่ออัน
ใหญ่สวมมาแล้ว ท่านถูกพระสมณโคดมกลับใจ ด้วยมายาเป็นเครื่องกลับใจ
เสียแล้วหรือ.

มายาเรื่องกลับใจ


[80] อุ. ท่านผู้เจริญ มายาอันเป็นเครื่องกลับใจนี้ดี ท่านผู้เจริญ
มายาอันเป็นเครื่องกลับใจนี้งาม ท่านผู้เจริญ ญาติสาโลหิตผู้เป็นที่รักของข้าพเจ้า