เมนู

สรรเสริญความเป็นพหูสูต


[376] ลำดับนั้น ท่านพระสารีบุตร ได้กล่าวกะท่านผู้มีอายุเหล่านั้น
ว่า ท่านผู้มีอายุทั้งหลายปฏิภาณตามที่เป็นของตนๆ พวกเราทุกรูปพยากรณ์
แล้ว มาไปกันเถิด พวกเราจักเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้ายังที่ประทับ
ครั้นแล้วจักกราบทูลเนื้อความนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า
จักทรงพยากรณ์แก่พวกเราอย่างใด พวกเราจักทรงจำข้อความนั้นไว้อย่าง
นั้น ท่านผู้มีอายุเหล่านั้นรับคำท่านพระสารีบุตรแล้ว.
ลำดับนั้น ท่านผู้มีอายุเหล่านั้น เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึง
ที่ประทับ ครั้นแล้วถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้าง
หนึ่ง แล้วท่านพระสารีบุตรได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอ
ประทานพระวโรกาส ท่านพระเรวตะ ท่านพระอานนท์ เข้าไปหาข้าพระองค์ถึง
ที่อยู่เพื่อฟังธรรม ข้าพระองค์ได้เห็นท่านพระเรวตะและท่านพระอานนท์
กำลังเดินมาแต่ไกล ครั้นแล้วได้กล่าวกะท่านพระอานนท์ว่า ท่านอานนท์
จงมาเถิด ท่านอานนท์ผู้เป็นอุปัฏฐากของพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้อยู่ใกล้พระผู้มี
พระภาคเจ้า มาดีแล้ว ท่านอานนท์ ป่าโคสิงคสาลวันเป็นสถานน่า
รื่นรมย์ ราตรีแจ่มกระจ่าง ไม้สาละมีดอกบานสะพรั่งทั่วต้น กลิ่นคล้ายทิพย์
ย่อมฟุ้งไป ท่านอานนท์ ป่าโคสิงคสาลวัน จะพึงงามด้วยภิกษุเห็นปานไร
เมื่อข้าพระองค์กล่าวอย่างนี้แล้ว ท่านพระอานนท์ได้ตอบข้าพระองค์ว่า
ท่านสารีบุตร ภิกษุในพระศาสนานี้เป็นพหูสูต เป็นผู้ทรงสุตะสั่งสมสุตะ
ธรรมเหล่าใด งามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด พร้อมทั้งอรรถ
พร้อมทั้งพยัญชนะ. ประกาศพรหมจรรย์ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ธรรม
เห็นปานนั้น อันภิกษุนั้นสดับมากแล้ว ทรงไว้แล้ว สั่งสมด้วยวาจา ตามเพ่ง
ด้วยใจ แทงตลอดดีแล้ว ด้วยความเห็น ภิกษุนั้นแสดงธรรมแก่บริษัท 4

ด้วยบทและพยัญชนะอันราบเรียบไม่ขาดสายเพื่อถอนเสียซึ่งอนุสัย
ท่านสารีบุตรป่าโคสิงคสาลวัน พึงงามด้วยภิกษุเห็นปานนี้แล.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดีละ ดีละ สารีบุตร อานนท์ เมื่อจะ
พยากรณ์โดยชอบ พึงพยากรณ์ตามนั้นด้วยว่า อานนท์เป็นพหูสูต เป็นผู้ทรง
สุตะ สั่งสมสุตะ ธรรมเหล่าใด งามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งาม
ในที่สุดพร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ ประกาศพรหมจรรย์บริสุทธิ์
บริบูรณ์สิ้นเชิง ธรรมเห็นปานนั้น อันอานนท์นั้นสดับมากแล้ว ทรงไว้
แล้วสั่งสมด้วยวาจา ตามเพ่งด้วยใจ แทงตลอดดีแล้วด้วยความเห็น อานนท์
นั้นแสดงธรรมแก่บริษัท 4 ด้วยบทและพยัญชนะอันราบเรียบไม่ขาดสาย
เพื่อถอนเสียซึ่งอนุสัย.
[377] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อท่านพระอานนท์กล่าวอย่างนี้แล้ว
ข้าพระองค์ได้กล่าวกะท่านพระเรวตะว่า ท่านเรวตะ ปฏิภาณตามที่เป็นของ
ตน ท่านอานนท์พยากรณ์แล้ว บัดนี้ เราขอถามท่านเรวตะในข้อนั้นว่า
ป่าโคสิงคสาลวัน เป็นสถานน่ารื่นรมย์ ราตรีแจ่มกระจ่าง ไม้สาละมีดอก
บานสะพรั่งทั่วต้น กลิ่นคล้ายทิพย์ ย่อมฟุ้งไป ท่านเรวตะ ป่าโคสิงคสาลวัน
จะพึงงามด้วยภิกษุเห็นปานไร เมื่อข้าพระองค์กล่าวอย่างนี้แล้ว ท่าน
พระเรวตะได้ตอบข้าพระองค์ว่า ท่านสารีบุตร ภิกษุในพระศาสนานี้
เป็นผู้มีความหลีกเร้นเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความหลีกเร้นประกอบเนืองๆ
ซึ่งเจโตสมถะอันเป็นภายใน มีฌานอันไม่เหินห่าง ประกอบด้วยวิปัสสนา
พอกพูนสุญญาคาร ท่านสารีบุตรป่าโคสิงคสาลวัน พึงงามด้วยภิกษุเห็น
ปานนี้แล.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดีละ ดีละ สารีบุตร เรวตะเมื่อจะ
พยากรณ์โดยชอบ พึงพยากรณ์ตามนั้น ด้วยเรวตะ เป็นผู้มีความหลีกเร้น
เป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในความหลีกเร้นประกอบเนืองๆ ซึ่งเจโตสมถะอันเป็น

ภายใน มีฌานอันไม่เหินห่าง ประกอบด้วยวิปัสสนา พอกพูนสุญญาคาร.
[378] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อท่านพระเรวตะกล่าวอย่างนี้แล้ว
ข้าพระองค์ได้กล่าวกะพระอนุรุทธะว่า ท่านอนุรุทธะ ปฏิภาณตามที่เป็นของ
ตน ท่านเรวตะพยากรณ์แล้ว บัดนี้ เราขอถามท่านอนุรุทธะในข้อนั้นว่า
ป่าโคสิงคสาลวันเป็นสถานน่ารื่นรมย์ ราตรีแจ่มกระจ่าง ไม้สาละมีดอกบาน
สะพรั่งทั่วต้น กลิ่นคล้ายทิพย์ ย่อมฟุ้งไป ท่านอนุรุทธะ ป่าโคสิงคสาลวัน
จะพึงงามด้วยภิกษุเห็นปานไร เมื่อข้าพระองค์กล่าวอย่างนี้แล้ว ท่าน
พระอนุรุทธะได้ตอบข้าพระองค์ว่า ท่านสารีบุตร ภิกษุในพระศาสนานี้
ย่อมตรวจดูโลกพันหนึ่งด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์
เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีจักษุ ขึ้นปราสาทอันงดงามชั้นบน พึงแลดูมณฑล
แห่งกงตั้งพันได้ ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมตรวจดูโลกพันหนึ่งด้วย
ทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ ท่านสารีบุตรป่าโคสิงคสาลวัน
พึงงามด้วยภิกษุเห็นปานนี้แล.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดีละ ดีละ สารีบุตร อนุรุทธะ เมื่อจะ
พยากรณ์โดยชอบ พึงพยากรณ์ตามนั้น ด้วยว่า อนุรุทธะ ย่อมตรวจดูโลก
ตั้งพันด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์.

สรรเสริญภิกษุผู้อยู่ป่าเป็นวัตร


[379] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อท่านพระอนุรุทธะกล่าวอย่างนี้แล้ว
ข้าพระองค์ได้กล่าวกะท่านพระมหากัสสปะว่า ท่านกัสสปะ ปฏิภาณตามที่
เป็นของตน ท่านพระอนุรุทธะพยากรณ์เล้ว บัดนี้ เราขอถามท่านมหากัสสปะ
ในข้อนั้นว่า ป่าโคสิงคสาลวัน เป็นสถานน่ารื่นรมย์ ราตรีแจ่มกระจ่าง
ไม้สาละมีดอกบานสะพรั่งทั่วต้น กลิ่นคล้ายทิพย์ ย่อมฟุ้งไป ท่านกัสสปะ