เมนู

พระบาท ท่านผู้มีอายุเหล่านั้น ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วนั่ง
ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
[362] พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกับท่านพระอนุรุทธะว่า ดูก่อน
อนุรุทธะ นันทิยะ และกิมิละ พวกเธอพอจะอดทนได้ละหรือ พอจะยังชีวิตให้
เป็นไปได้หรือ พวกเธอไม่ลำบากด้วยบิณฑบาตหรือ.
อ. ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า พวกข้าพระองค์พอจะอดทนได้
พอจะยังชีวิตให้เป็นไปได้ พวกข้าพระองค์ไม่ลำบากด้วยบิณฑบาต.
พ. ก็พวกเธอ ยังพร้อมเพรียงกัน ชื่นบานต่อกัน ไม่วิวาทกัน ยังเป็น
เหมือนน้ำนมกับน้ำ แลดูกันและกันด้วยจักษุอันเป็นที่รักอยู่หรือ.
อ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกข้าพระองค์ ยังพร้อมเพรียงกัน
ชื่นบานต่อกัน ไม่วิวาทกัน ยังเป็นเหมือนน้ำนมกับน้ำ แลดูกันและกันด้วย
จักษุอันเป็นที่รักอยู่.
พ. ก็พวกเธอเป็นอย่างนั้นได้ เพระเหตุอย่างไร.

การประพฤติในปฏิสันถาร


[363] อ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส
ข้าพระองค์มีความดำริอย่างนี้ว่า เป็นลาภของเราหนอ เราได้ดีแล้วหนอ
ที่ได้อยู่ร่วมกับเพื่อนพรหมจรรย์เห็นปานนี้ข้าพระองค์เข้าไปตั้งกายกรรม
ประกอบด้วยเมตตาในท่านผู้มีอายุเหล่านี้ ในที่แจ้งและที่ลับ เข้าไปตั้ง
วจีกรรม ประกอบด้วยเมตตา... เข้าไปตั้งมโนกรรม ประกอบด้วยเมตตาใน
ท่านผู้มีอายุเหล่านี้ ทั้งในที่แจ้งและที่ลับ ข้าพระองค์มีความดำริอย่างนี้ว่า
ไฉนหนอ เราพึงเก็บจิตของตนเสีย แล้วประพฤติตามอำนาจจิตของท่านผู้มี
อายุเหล่านี้ แล้วข้าพระองค์ก็เก็บจิตของตนเสีย ประพฤติอยู่ตามอำนาจจิต

ของท่านผู้มีอายุเหล่านี้ กายขอพวกข้าพระองค์ต่างกันจริงแล แต่ว่าจิตเห็นจะ
เป็นอันเดียวกัน.
แม้ท่านพระนันทิยะ...แม้ท่านพระกิมิละ ก็ได้กราบทูลพระผู้มีพระ
ภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส แม้ข้าพระองค์
ก็มีความดำริอย่างนี้ว่า เป็นลาภของเราหนอ เราได้ดีแล้วหนอ ที่ได้อยู่ร่วมกับ
เพื่อนพรหมจรรย์เห็นปานนี้ ข้าพระองค์เข้าไปตั้งกายกรรม ประกอบ
ด้วยเมตตา เข้าไปตั้งวจีกรรมประกอบด้วยเมตตา...เข้าไปตั้งมโนกรรม
ประกอบด้วยเมตตาในท่านผู้มีอายุเหล่านี้ ทั้งในที่แจ้งและที่ลับ ข้าพระองค์
มีความดำริอย่างนี้ว่า ไฉนหนอเราพึงเก็บจิตของตนเสีย แล้วประพฤติ
ตามอำนาจจิตของท่านผู้มีอายุเหล่านี้ แล้วข้าพระองค์ก็เก็บจิตของตนเสีย
ประพฤติอยู่ตามอำนาจจิตของท่านผู้มีอายุเหล่านี้ กายของพวกข้าพระองค์
ต่างกันจริงแล แต่ดูกันจิตเห็นจะเป็นอันเดียวกัน ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พวกข้าพระองค์ยังพร้อมเพรียงกัน ชื่นบานต่อกัน ไม่วิวาทกัน ยังเป็นเหมือน
น้ำนมกับน้ำ แลดูกันและกันด้วยจักษุอันเป็นที่รักอยู่.
[364] พ. ดีละ ดีละ อนุรุทธะ พวกเธอเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร
ส่งตนไปแล้วอยู่หรือ.
อ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกข้าพระองค์เป็นผู้ไม่ประมาท
มีความเพียรส่งตนไปแล้วอยู่.
พ. ก็พวกเธอเป็นอย่างนั้นได้ เพราะเหตุอย่างไร.
อ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส บรรดาพวก
ข้าพระองค์ ท่านผู้ใดกลับจากบิณฑบาตแต่บ้านก่อน ท่านผู้นั้นย่อมปูลาด
อาสนะ ตั้งน้ำฉัน น้ำใช้ไว้ ตั้งถาดสำรับไว้ ท่านผู้ใดกลับจากบิณฑบาตแต่
บ้านทีหลัง ถ้ามีบิณฑบาตที่เหลือจากฉัน หากประสงค์ ก็ฉัน ถ้าไม่ประสงค์

ก็ทิ้งเสียในที่ปราศจากของเขียว หรือเทลงในน้ำที่ไม่มีตัวสัตว์ ท่านผู้นั้นเก็บ
อาสนะ เก็บน้ำฉัน เก็บน้ำใช้เก็บถาดสำรับ กวาดโรงภัตร ท่านผู้ใดเห็น
หม้อน้ำฉัน น้ำใช้ หรือหม้อนำชำระว่างเปล่า ท่านผู้นั้นก็เข้าไปตั้งไว้ ถ้า
เหลือวิสัยของท่านก็กวักมือเรียกรูปที่สองแล้วช่วยกันยกเข้าไปตั้งไว้
พวกข้าพระองค์ไม่เปล่งวาจาเพราะข้อนั้นเป็นปัจจัย และทุกวันที่ 5
พวกข้าพระองค์นั่งสนทนาธรรมกถาตลอดคืนยังรุ่ง ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พวกข้าพระองค์ เป็นผู้ไม่ประมาท มิความเพียร ส่งตนไปอยู่ด้วยประการ
ฉะนี้แล.

ธรรมเครื่องอยู่สำราญ 9


[365] พ. ดีละ ดีละ อนุรุทธะ ก็เมื่อพวกเธอเป็นผู้ไม่ประมาท
มีความเพียร ส่งตนไปอยู่อย่างนี้คุณวิเศษคือญาณทัสสนะอันสามารถกระทำ
ความเป็นพระอริยะ อันยิ่งกว่าธรรมของมนุษย์ ซึ่งเป็นเครื่องอยู่สำราญ
ที่พวกเธอได้เข้าถึงแล้ว มีอยู่หรือ.
อ. เพราะเหตุอะไรเล่า จะไม่พึงมีพระพุทธเจ้าข้า ขอประทาน
พระวโรกาส พวกข้าพระองค์หวังอยู่เพียงว่า พวกข้าพระองค์สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรม เข้าถึงปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุข เกิด
แต่วิเวกอยู่ เมื่อพวกข้าพระองค์เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรส่งตนไปอยู่
คุณวิเศษคือญาณทัสสนะ อันสามารถกระทำความเป็นพระอริยะ อันยิ่งกว่า
ธรรมของมนุษย์ ซึ่งเป็นเครื่องอยู่สำราญนี้แล พวกข้าพระองค์ได้เข้าถึงแล้ว.
พ. ดีละ ดีละ อนุรุทธะ ก็คุณวิเศษคือญาณทัสสนะอันสามารถกระทำ
ความเป็นพระอริยะอันยิ่งกว่าธรรมของมนุษย์ ซึ่งเป็นเครื่องอยู่สำราญ
ที่พวกเธอได้เข้าถึงแล้ว เพื่อความก้าวล่วง เพื่อความระงับ แห่งธรรมเป็น
เครื่องอยู่อันนี้ อย่างอื่นมีอยู่หรือ.