เมนู

ฝูงที่สี่ในที่ซึ่งตนจะไปจับเอาได้ไม่ ทีนั้น พรานเนื้อกับบริวารจึงคิดตกลงใจว่า
ถ้าเราขืนรบกวนฝูงเนื้อฝูงที่สี่ให้ตกใจแล้ว ก็จะพลอยทำให้ฝูงเนื้ออื่น ๆ ตก
ใจไปด้วย ฝูงเนื้อทั้งหลายคงไปจากป่าหญ้าปลูกไว้นี้หมดสิ้น อย่ากระนั้นเลย
เราเพิกเฉยฝูงเนื้อฝูงที่สี่เสียเถิด ครั้นคิดดังนี้แล้ว พรานเนื้อกับบริวารก็เพิกเฉย
ฝูงเนื้อฝูงที่สี่เสีย เมื่อเป็นเช่นนี้ ฝูงเนื้อฝูงที่สี่ก็รอดพ้นอำนาจของพรานเนื้อ
ไปได้.
[306] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอุปมาให้ฟัง เพื่อให้เข้าใจเนื้อความ
ได้ชัดขึ้น. ในคำอุปมานั้น มีอธิบายดังนี้. คำว่าป่าหญ้าเป็นชื่อของปัญจกามคุณ.
คำว่าพรานเนื้อเป็นชื่อของมารผู้มีบาปธรรม. คำว่าบริวารของพรานเนื้อ เป็น
ชื่อของบริวารของมาร. คำว่าฝูงเนื้อเป็นชื่อของสมณพราหมณ์ทั้งหลาย.
[307] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในสมณพราหมณ์เหล่านั้น สมณ-
พราหมณ์พวกที่หนึ่ง เข้าไปสู่ปัญจกามคุณของมารอันเป็นโลกามิสแล้ว ลืมตัว
บริโภคปัญจกามคุณ เมื่อเธอเหล่านั้นเข้าไปในปัญจกามคุณนั้น ลืมตัว บริโภค
ปัญจกามคุณก็มัวเมา เมื่อมัวเมาก็ประมาท เมื่อประมาท ก็ถูกมารทำเอาได้
ตามใจชอบในปัญจกามคุณนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ สมณพราหมณ์พวกที่หนึ่งนั้น
ก็ไม่พ้นอำนาจของมารไปได้. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวสมณพราหมณ์
พวกที่หนึ่งนี้ว่า เปรียบเหมือนเนื้อฝูงที่หนึ่งนั้น.

สมณพราหมณ์พวกที่สอง


[308] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์พวกที่สองคิดเห็นร่วม
กันอย่างนี้ว่า สมณพราหมณ์พวกที่หนึ่งเข้าไปสู่ปัญจกามคุณของมารอันเป็น
โลกามิสแล้ว ลืมตัว บริโภคปัญจกามคุณ เมื่อเธอเหล่านั้นเข้าไปในปัญจ
กามคุณนั้นลืมตัว บริโภคปัจกามคุณ ก็มัวเมา เมื่อมัวเมา ก็ประมาท
เมื่อประมาท ก็ถูกมารทำเอาได้ตามความชอบใจในปัญจกามคุณนั้น เมื่อเป็น
เช่นนี้ สมณพราหมณ์พวกที่หนึ่งนั้น ก็ไม่หลุดพ้นอำนาจของมารไปได้

ถ้ากระไร เราต้องงดเว้นจากการบริโภคปัญจกามคุณอันเป็นโลกามิสเสียทั้งสิ้น
เมื่องดเว้นจากการบริโภคที่เป็นภัยแล้ว ต้องเข้าไปอาศัยอยู่ตามราวป่า ครั้น
คิดดังนี้แล้ว จึงงดเว้นจากการบริโภคปัญจกามคุณอันเป็นโลกามิสเสียทั้งสิ้น
เมื่องดเว้นจากการบริโภคปัญจกามคุณอันเป็นโลกามิสเสียทั้งสิ้น งดเว้นจาก
การบริโภคที่เป็นภัยแล้ว ก็เข้าไปอาศัยอยู่ตามราวป่า เธอเหล่านั้นมีผักดอง
เป็นภักษาบ้าง มีข้าวฟ่างเป็นภักษาบ้าง มีลูกเดือยเป็นภักษาบ้าง มีกากข้าว
เป็นภักษาบ้าง มีสาหร่ายเป็นภักษาบ้าง มีรำเป็นภักษาบ้าง มีข้าวตังเป็น
ภักษาบ้าง มีกำยานเป็นภักษาบ้าง มีหญ้าเป็นภักษาบ้าง มีโคมัยเป็นภักษา
บ้าง มีเง่าไม้และผลไม้ในป่าเป็นอาหาร บริโภคผลไม้หล่น เยียวยาอัตตภาพ
อยู่ในราวป่านั้น ครั้นถึงเดือนท้ายฤดูคิมหันต์ เป็นเวลาที่สิ้นหญ้าและน้ำ เธอ
เหล่านั้นก็มีร่างกายซูบผอม เมื่อมีร่างการซูบผอม กำลังเรี่ยวแรงก็หมดไป
เมื่อกำลังเรี่ยวแรงหมดไป เจโตวิมุตติก็เสื่อม เมื่อเจโตวิมุตติเสื่อมแล้ว พวก
เธอก็หันกลับเข้าสู่ปัญจกามคุณของมารอันเป็นโลกามิสนั้นอีก เมื่อเข้าไปแล้ว
ลืมตัว บริโภคปัญจกามคุณก็มัวเมา เมื่อมัวเมา ก็ประมาท เมื่อประมาท ก็
ถูกมารทำเอาได้ตามชอบใจในปัญจกามคุณนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ แม้สมณ-
พราหมณ์พวกที่สองนั้นก็ไม่หลุดพ้นอำนาจของมารไปได้. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เรากล่าวสมณพราหมณ์พวกที่สองนี้ว่าเปรียบเหมือนฝูงเนื้อฝูงที่สองนั้น.

สมณพราหมณ์พวกที่สาม


[309] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์พวกที่สามคิดเห็นร่วม
กันอย่างนี้ว่า สมณพราหมณ์พวกที่หนึ่งเข้าไปสู่ปัญจกามคุณของมารอันเป็น
โลกามิสแล้ว ลืมตัว บริโภคปัญจกามคุณ เมื่อเธอเหล่านั้นเข้าไปในปัญจ-
กามคุณนั้นลืมตัว บริโภคปัญจกามคุณ ก็มัวเมา เมื่อมัวเมา ก็ประมาท
เมื่อประมาท ก็ถูกมารทำเอาตามความชอบใจในปัญจกามคุณนั้น เมื่อเป็นเช่น
นี้ สมณพราหมณ์พวกที่หนึ่งนั้น ก็ไม่หลุดพ้นอำนาจของมารไปได้ ส่วน