เมนู

ผู้วางตนเป็นกลางในสัตว์และสังขารบ้าง ผู้มีจิตโน้ม น้อม นำไป เพื่อ
ให้เกิดอุเบกขาสัมโพชฌงค์นั้น ในอิริยาบถทั้งหลาย มียืนและนั่งเป็นต้น
บ้าง ดังพรรณนามาฉะนี้.
ก็เมื่ออุเบกขาสัมโพชฌงค์นั้นเกิดขึ้นอย่างนั้น พระโยคาวจรย่อม
ทราบชัดว่า ความเจริญเต็มที่ (แห่งอุเบกขาสัมโพชฌงค์) มีได้ด้วย
อรหัตตมรรค.
บทว่า อิติ อชฺฌตฺตํ วา ความว่า พระโยคาวจรนั้นกำหนด
โพชฌงค์ 7 ของตน หรือของบุคคลอื่นอย่างนี้แล้ว คือ กำหนด
โพชฌงค์ของตนตามกาล หรือโพชฌงค์ของบุคคลอื่นตามกาล เป็นผู้
ปกติพิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่อย่างนี้. ส่วนความเกิดขึ้น
และความดับไปในโพชฌงคบรรพนี้ พึงทราบด้วยอำนาจการเกิดและ
การดับของสัมโพชฌงค์ทั้งหลาย. คำอื่นจากนี้ มีนัยดังกล่าวมาแล้ว.

อริยสัจในโพชฌงค์


ด้วยว่า ในโพชฌงคบรรพนี้ สติที่กำหนดโพชฌงค์ เป็นทุกขสัจ
อย่างเดียว นักศึกษาพึงทราบทางแห่งธรรมเครื่องนำออกของภิกษุผู้
กำหนดโพชฌงค์ เพราะการประกอบความดังว่ามานี้แล. คำที่เหลือ
เป็นเช่น (กับที่กล่าวมาแล้ว) นั้นเหมือนกัน.
จบ โพชฌงคบรรพ

สัจจบรรพ


ครั้นทรงจำแนกธัมมานุปัสสนา ด้วยอำนาจโพฌงค์ 7 อย่างนี้