เมนู

ธรรมในธรรมทั้งหลายของตน หรือในธรรมทั้งหลายของผู้อื่น คือในธรรม
ทั้งหลายของตนตามกาล (ที่เหมาะสม) หรือของผู้อื่นตามกาล (ที่เหมาะ
สม) ด้วยการกำหนดเห็นนิวรณ์ 5 อย่างนี้อยู่.
แต่ในนิวรณบรรพนี้ พระโยคาวจรควรนำความเกิดขึ้นและความ
เสื่อมออกไปด้วยอโยนิโสมนสิการ หรือโยนิโสมนสิการในสุภนิมิตเป็นต้น
โดยนัยที่ตรัสไว้แล้วในนิวรณ์ 5. ข้อความต่อจากนี้ไปมีนัยดังกล่าวแล้ว
นั้นแล.

อริยสัจในนิวรณ์


ก็สติเป็นเครื่องกำหนดนิวรณ์ ในนิวรณบรรพนี้ เป็นทุกขสัจ
อย่างเดียว บัณฑิตพึงประกอบความดังที่พรรณหามานี้ แล้วทราบมุข
แห่งธรรมเป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ ของภิกษุผู้กำหนดนิวรณ์เป็นอารมณ์
ข้อความที่เหลือก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกันแล.
จบ นิวรณบรรพ

ขันธบรรพ


[142] พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นทรงจำแนกธรรมานุปัสสนาโดย
นิวรณ์ 5 อย่างนี้แล้ว บัดนี้ เพื่อจะทรงจำแนกโดยเบญจขันธ์ จึงตรัส
คำมีอาทิว่า ปุน จปรํ.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ความว่า กอง
แห่งอุปาทาน ชื่อว่าอุปาทานขันธ์ อธิบายว่า กลุ่มแห่งธรรมคือกองแห่ง
ธรรมอันเป็นปัจจัยแห่งอุปาทาน ชื่อว่าธัมมราสี ความสังเขปในเบญจขันธ์