เมนู

มณฑป

เรื่องพระมหานาคเถระ


ได้ทราบว่า แม้พระเถระรูปนั้น เมื่อบำเพ็ญคตปัจจาคติกวัตร ได้
อธิษฐานจงกรมอย่างเดียว สิ้นเวลา 7 ปี ว่าเราจักบูชาความเพียรอัน
ยิ่งใหญ่ ของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นปฐมก่อน ได้บำเพ็ญคตปัจจา-
คติกวัตร
อีก 16 ปี จึงได้บรรลุพระอรหัต ท่านมีจิตประกอบด้วยพระ-
กรรมฐานนั่นเอง ยกเท้าขึ้น ถอยกลับในขณะยก (เท้า) ขึ้นโดยจิต
ปราศจาก (กรรมฐาน) เดินไปใกล้บ้าน ยืนห่มผ้า ณ ที่ที่ชวนให้คน
สงสัยว่า แม่วัวหรือพระกันแน่ ? ใช้น้ำจากที่ระหว่างต้นไทรล้างบาตร
แล้วก็อมน้ำไว้. เพราะเหตุไร ? เพราะท่านคิดว่า ขอเราอย่าได้ทอดทิ้ง
กรรมฐาน แม้ด้วยเหตุที่พูดกะคนที่มาถวายภิกษาหรือมนสิการว่า ขอจง
มีอายุยืนเถิด. แต่ (ถ้า) ถูกถามถึงวันว่า วันนี้เป็นวันอะไรครับ หรือ
ถามจำนวนภิกษุถามปัญหา ก็จะกลืนน้ำแล้วจึงบอก ถึงหากไม่มีผู้ถามถึง
วันเป็นต้น เวลาออกไปก็จะบ้วนน้ำออก (จากปาก) ที่ประตูบ้านแล้ว
จึงไป เหมือนภิกษุ 50 รูป ที่จำพรรษาที่กลัมพติตถวิหาร.

เรื่องพระ 50 รูป


ได้ทราบว่า ในวันอาสาฬหปุณณมี (กลางเดือน 8) ท่านเหล่า
นั้นได้ทำกติกาวัตรกันไว้ว่า ถ้าพวกเรายังไม่บรรลุอรหัตแล้ว จะไม่พูด
คุยกัน. และเมื่อจะเข้าบ้านบิณฑบาต ( แต่ละรูป ) ก็อมน้ำแล้ว จึงเข้าไป
เมื่อถูกถามถึงวันเป็นต้น ก็ปฏิบัติดังที่กล่าวมาแล้วนั้นแหละ. คนทั้งหลาย
เห็นรอยบ้วนน้ำ ณ ที่นั้นแล้ว ก็รู้ว่า วันนี้พระมารูปเดียว วันนี้มา 2 รูป