เมนู

ยกเท้าขึ้นทั้งที่มีจิตพรากจากกรรมฐาน ถ้ายก (โดยที่มีจิตพรากจาก
กรรมฐาน) ก็จะกลับไปยังที่เดิมนั้นเอง เหมือนมหาปุสสเทวเถระ ชาว
อาลินทกะ.

เรื่องพระมหาปุสสเทวเถระ


เล่ากันมาว่า ท่านได้บำเพ็ญคตปัจจาคติกวัตร1 (วัตรของผู้เดิน
กลับไปกลับมา) อยู่ที่เดียวเป็นเวลา 19 พรรษา. ได้ยินว่า แม้คน
ทั้งหลายกำลังไถ กำลังหว่าน กำลังนวด ทำงานกันอยู่ เห็นพระเถระ
เดินอย่างนั้น จึงสนทนากันว่า พระเถระรูปนี้ เดินกลับไปกลับมา คง
จะหลงทางหรือไม่ก็คงลืมอะไรกระมัง ? ท่านไม่คำนึงถึงคำพูดนั้น ทำ
สมณธรรมด้วยทั้งจิตที่ประกอบด้วยกรรมฐานนั้นแหละ ได้บรรลุอรหัต
ภายใน 20 พรรษา. ในวันที่ท่านได้บรรลุพระอรหัตนั่นเอง เทวดาที่สิ่ง
อยู่ที่ปลายทางจงกรมของท่าน ได้ยืนชูนิ้วแทนประทีป2 ถึงท้าวมหาราช
ทั้ง 4 ท้าวสักกะจอมเทพ และสหัมบดีพรหม ก็ได้พากันมายังที่ทำนุ
บำรุง (ท่าน). และท่านวนวาสีติสสมหาเถระ เห็นแสงสว่างนั้นแล้ว
ในวันที่ 2 จึงได้ถามท่านมหาปุสสเถระ ชาวอาลินทกะว่า เวลากลาง
คืน ที่สำนักของท่าน ได้มีแสงสว่าง แสงสว่างนั้นเป็นแสงสว่างอะไร ?
พระเถระเมื่อจะทำการกลบเกลื่อน จึงได้พูดคำมีอาทิอย่างนี้ว่า ธรรมดา
แสงสว่าง ก็คงเป็นแสงสว่างของประทีปบ้าง เป็นแสงสว่างของแล้วมณี
บ้าง ต่อมาท่านกำชับท่านวนวาสีติสสเถระไว้ว่า ท่านจงปกปิดไว้ รู้ว่า
ท่านรับคำแล้วจึงบอก. และเหมือนกับท่านมหานาคเถระ ชาวกาลวัลลิ-
1. ปาฐะว่า คตปจฺจาคตวตฺตํ ฉบับพม่าเป็น คตปจฺจาคติกวตฺตํ แปลตามฉบับพม่า.
2. ปาฐะว่า กตฺวา พม่าเป็น อุชฺชาเลตฺวา แปลตามฉบับพม่า.