ที่สามเณรนั้นได้แล้วบรรลุแล้ว. อสุภารมณ์เดียว ได้เกิดประโยชน์แก่คน
2 คน ดังที่พรรณนามานี้.
ก็อสุภารมณ์นี้ แม้จะมีประโยชน์ดังที่พรรณนามานี้ (แต่) อสุภา-
รมณ์คือหญิง ก็เป็นอสัปปายะของชาย และอสุภารมณ์คือชาย ก็เป็น
อสัปปายะของหญิง. อสุภารมณ์ที่เป็นสภาคกันเท่านั้น จึงจะเป็นสัปปายะ
เพราฉะนั้น การกำหนดสัปปายะอย่างนั้น ชื่อว่า สัปปายะสัมปชัญญะ.
3. โคจรสัมปชัญญะ
แต่การเรียนเอา โคจระ กล่าวคือกรรมฐาน ซึ่งเป็นที่ชอบใจ
ของตน ในจำนวนกรรมฐาน 38 ประการ แล้วรับเอากรรมฐานนั้น
เดินไปในที่โคจรเพื่อภิกขาจาร ชื่อว่า โคจรสัมปชัญญะ สำหรับผู้มี
สัปปายะที่มีประโยชน์ที่กำหนดแล้วอย่างนี้.
เพื่อความแจ่มชัดแห่งโคจรสัมปชัญญะนั้น ผู้ศึกษาควรทราบ
สัมปชัญญะ 4 หมวด ดังต่อไปนี้ คือ ภิกษุลางรูปในศาสนานี้ นำไป
ไม่นำกลับ ลางรูปไม่นำไป ไม่นำกลับ ลางรูปทั้งนำไปไม่นำกลับ.
ภิกษุนำไปนำกลับ
บรรดาภิกษุทั้ง 4 รูปนั้น ภิกษุรูปใด ชำระจิตให้ผ่องใสจาก
นิวรณธรรม ด้วยการจงกรม ด้วยการนั่งตลอดทั้งวัน ตลอดปฐมยามแห่ง
ราตรีก็เช่นนั้น ในมัชฌิมยามจำวัด แม้ในปัจฉิมยามก็ให้เวลาผ่านไปด้วย
การนั่ง การจงกรม จะป่วยกล่าวไปไยถึงจะทำวัตรที่ลานพระเจดีย์ ลาน
โพธิ์พฤกษ์ จะรดน้ำต้นโพธิ์ จะตั้งน้ำดื่มน้ำใช้ไว้ สมาทาน ปฏิบัติวัตร