เมนู

พิจารณากาย


และในคำว่า กาเย กายานุปสฺสี นี้ ไม่ใช่พิจารณาเห็นธรรม
อย่างเอกนอกเหนือจาก (มหา) ภูตรูป และอุปาทายรูป แม้ในกาย
กล่าวคือชุมนุม (มหา) ภูตรูป และอุปาทายรูป มี ผม ขน เป็นต้น.
โดยที่แท้แล้ว ก็เป็นผู้พิจารณาเห็นชุมนุมแห่งองคาพยพ เหมือนผู้มอง
เห็นเครื่องประกอบของรถฉะนั้น เป็นผู้พิจารณาเห็นชุมนุมแห่งผม ขน
เป็นต้น เหมือนผู้เห็นส่วนต่าง ๆ ของตัวเมืองฉะนั้น และเป็นผู้พิจารณา
เห็นชุมนุมแห่ง (มหา) ภูตรูป และอุปาทายรูปนั้นแหละ เหมือนคน
ลอกกาบกล้วยออกจากต้นกล้วยฉะนั้น และเหมือนคนแบกำมือเปล่า
ออกอย่างนั้นแหละ เพราะฉะนั้น โดยการทรงแสดงวัตถุ กล่าวคือกาย
ด้วยอำนาจแห่งชุมนุม โดยประการต่าง ๆ นั้นเอง เป็นอันพระองค์ทรง
แสดงกายแยกฆนสัญญาออกไปแล้ว. เพราะว่า ในคำว่า กาเย กายา-
นุปสฺสี
นี้ จะไม่เห็นเป็นกาย เป็นหญิง เป็นชาย หรือเป็นธรรม
อะไรอื่น นอกเหนือไปจากชุมนุมแห่งธรรมตามที่กล่าวแล้ว. แต่สัตว์
ทั้งหลาย ทำความเชื่อมั่นผิด ๆ อย่างนั้นอย่างนั้น ในสภาวะเพียงการ
ชุมนุมธรรมดามที่กล่าวแล้วเท่านั้น. เพราะฉะนั้น พระโบราณาจารย์จึง
ได้กล่าวไว้ว่า :-
สิ่งใดที่บุคคลเห็นอยู่ สิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาเห็นแล้ว
สิ่งใดที่บุคคลเห็นแล้ว สิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาเห็นอยู่
เมื่อไม่เห็น (ตามความเป็นจริง) จึงหลงติดอยู่
เมื่อ (หลง) ติดอยู่ ย่อมไม่หลุดพ้น.