เมนู

วาระที่ 5.
ความจริง ภิกษุผู้ประกอบด้วยคุณมีศีลเป็นต้น ย่อมอดกลั้น คือ
ย่อมครอบงำ ได้แก่ย่อมย่ำยีความกลัวและความขลาดนั้นตั้งอยู่ เหมือน
พระมหาทัตตเถระชาวอริยโกฏิยวิหาร.

เทวดาไล่พระ


ได้ยินว่า พระเถระดำเนินไปในหนทาง ได้พบราวป่าอันเป็นที่ตั้ง
แห่งความเลื่อมใสแห่งใดแห่งหนึ่ง จึงคิดว่า วันนี้เราจักบำเพ็ญสมณ-
ธรรมในที่นี้แล้วจึงจะไป ดังนี้แล้ว จึงออกไปจากทางปูลาดผ้าสังฆาฏิ
แล้วนั่งขัดสมาธิใกล้โคนต้นไม้แห่งใดแห่งหนึ่ง.
เด็ก ๆ ของรุกขเทวดา ไม่สามารถที่จะดำรงอยู่ตามสภาวะของตน
ได้ ด้วยเดชแห่งศีลของพระเถระ จึงร้องจ้าขึ้น. เเม้เทวดาเองก็เขย่า
ต้นไม้ทุกต้น พระเถระนั่งไม่ไหวติง เทวดานั้นจึงบังหวนควันให้ไฟลุก
โพลงขึ้น (แม้ถึงอย่างนั้น) ก็ไม่สามารถที่จะทำให้พระเถระไหวติงได้.
ต่อแต่นั้นเทวดาจึงแปลงเพศเป็นอุบาสก เดินมาไหว้พระเถระแล้ว
ได้ยืนอยู่ ถูกพระเถระถามว่าใครนั่น จึงได้กล่าวว่า ท่านผู้เจริญ กระผม
เป็นเทวดาที่สถิตอยู่ที่ต้นไม้นี้ พระเถระถามว่า ท่านได้ทำสิ่งประหลาด
นั้นหรือ ? เทวดาตอบว่า ใช่ครับ. ก็เทวดานั้น พอถูกพระเถระถามว่า
เพราะเหตุไรท่านจึงทำ ? จึงตอบว่า ท่านผู้เจริญ ด้วยเดชแห่งศีลของ
ท่านนั้นแล พวกเด็กๆ ไม่สามารถที่จะดำรงอยู่ตามภาวะของตนได้ จึง
ได้พากันส่งเสียงร้องจ้า กระผมนั้นได้ทำอย่างนี้เพื่อ (ประสงค์) จะให้
ท่านหนีไปเสีย. พระเถระถามว่า เมื่อเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุไรท่านจึง