10. ปาปนิวาริยตฺเถรอปทานํ
[44]
‘‘ติสฺสสฺส ตุ ภควโต, เทวเทวสฺส ตาทิโน;
เอกจฺฉตฺตํ มยา ทินฺนํ, วิปฺปสนฺเนน เจตสาฯ
[45]
‘‘นิวุตํ โหติ เม ปาปํ, กุสลสฺสุปสมฺปทา;
อากาเส ฉตฺตํ ธาเรนฺติ, ปุพฺพกมฺมสฺสิทํ ผลํฯ
[46]
‘‘จริมํ วตฺตเต มยฺหํ, ภวา สพฺเพ สมูหตา;
ธาเรมิ อนฺติมํ เทหํ, สมฺมาสมฺพุทฺธสาสเนฯ
[47]
‘‘ทฺเวนวุเต อิโต กปฺเป, ยํ ฉตฺตมททิํ ตทา;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ฉตฺตทานสฺสิทํ ผลํฯ
[48]
‘‘ทฺเวสตฺตติมฺหิโต กปฺเป, อฏฺฐาสิํสุ ชนาธิปา;
มหานิทานนาเมน, ราชาโน จกฺกวตฺติโนฯ
[49]
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’ฯ
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา ปาปนิวาริโย [วาตาตปนิวาริโย (สี.)] เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติ;
ปาปนิวาริยตฺเถรสฺสาปทานํ ทสมํฯ
กณิการปุปฺผิยวคฺโค เอกวีสติโมฯ
ตสฺสุทฺทานํ –
กณิกาโร มิเนลญฺจ, กิงฺกณิ ตรเณน จ;
นิคฺคุณฺฑิปุปฺผี ทกโท, สลโล จ กุรณฺฑโก;
อาธารโก ปาปวารี, อฏฺฐตาลีส คาถกาติฯ
22. หตฺถิวคฺโค
1. หตฺถิทายกตฺเถรอปทานํ
[1]
‘‘สิทฺธตฺถสฺส ภควโต, ทฺวิปทินฺทสฺส ตาทิโน;
นาคเสฏฺโฐ มยา ทินฺโน, อีสาทนฺโต อุรูฬฺหวาฯ
[2]
‘‘อุตฺตมตฺถํ อนุโภมิ, สนฺติปทมนุตฺตรํ;
นาคทานํ [อคฺคทานํ (สี. ก.)] มยา ทินฺนํ, สพฺพโลกหิเตสิโนฯ
[3]
‘‘จตุนฺนวุติโต กปฺเป, ยํ นาค [ทาน (สี. ก.)] มททิํ ตทา;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, นาคทานสฺสิทํ ผลํฯ
[4]
‘‘อฏฺฐสตฺตติกปฺปมฺหิ, โสฬสาสิํสุ ขตฺติยา;
สมนฺตปาสาทิกา นาม, จกฺกวตฺตี มหพฺพลาฯ
[5]
‘‘ปฏิสมฺภิทา จตสฺโส, วิโมกฺขาปิ จ อฏฺฐิเม;
ฉฬภิญฺญา สจฺฉิกตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’ฯ
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา หตฺถิทายโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติฯ
หตฺถิทายกตฺเถรสฺสาปทานํ ปฐมํฯ
2. ปานธิทายกตฺเถรอปทานํ
[6]
‘‘อารญฺญิกสฺส อิสิโน, จิรรตฺตตปสฺสิโน [ฌายิโน, เมตฺตจิตฺตตปสฺสิโน (สฺยา.)];
พุทฺธสฺส [ธมฺมสฺส (สฺยา. ก.)] ภาวิตตฺตสฺส, อทาสิํ ปานธิํ อหํฯ
[7]
‘‘เตน กมฺเมน ทฺวิปทินฺท, โลกเชฏฺฐ นราสภ;
ทิพฺพยานํ [สพฺพํ ยานํ (สี.)] อนุโภมิ, ปุพฺพกมฺมสฺสิทํ ผลํฯ
[8]
‘‘จตุนฺนวุเต อิโต กปฺเป, ยํ กมฺมมกริํ ตทา;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ปานธิสฺส อิทํ ผลํฯ
[9]