เมนู

กระดานเถิด ขอรับ ท่านจงเป็นที่พึ่งของคนอื่นเถิด ขอรับ
ท่านไม่อาจเพื่อจะเป็นที่พึ่งของตน กระผมไม่มีความต้องการ
ด้วยการอนุโมทนาของท่าน ว่าแล้วก็ได้เหาะไปในอากาศ.
พระเถระทราบว่า งานเกี่ยวกับการศึกษาเล่าเรียนของภิกษุรูปนี้ไม่มี
แต่เธอมาด้วยคิดว่า จะเป็นผู้สั่งสอนเรา แล้งคิดว่า บัดนี้จะไม่มีโอกาส
เวลาใกล้รุ่งเราจะไป แล้วก็เก็บบาตรจีวรไว้ใกล้ ๆ สอนธรรมตลอดยามต้น
และยามกลางคืนยังรุ่ง ขณะที่พระเถระรูปหนึ่งเรียนอุทเทศแล้วจะออกไปใน
ยามสุดท้าย ก็ถือบาตรจีวรออกไปด้วยกันกับพระเถระนั้นนั่นเอง พวกศิษย์
(อันเตวาสิก) ที่นั่งเข้าใจว่า อาจารย์ ออกไปด้วยธุระบางอย่างนานแล้ว. พระเถระ
ที่ออกไปก็ทำความเข้าใจว่า เป็นภิกษุที่ร่วมอาจารย์กัน บางรูปนั่นเอง. ได้ยิน
ว่า พระเถระ คิดว่า ชื่อว่าความเป็นพระอรหันต์สำหรับคนชั้นเรา จะอะไร
หนักหนาเล่า แค่สองสามวันเท่านั้นแหละ ก็จะสำเร็จแล้วจึงจะกลับมา ดังนี้
จึงไม่บอกพวกลูกศิษย์เลย ในวันขึ้นสิบสามค่ำเดือนแปดไปสู่เงื้อมเขาท้ายหมู่
บ้าน เมื่อขึ้นสู่ที่จงกรมแล้ว เอาใจใส่กัมมัฏฐาน ในวันนั้นยังถือเอาพระ-
อรหัตผลไม่ได้. เมื่อถึงวันอุโบสถ ก็คิดว่า เรามาแล้วด้วยคิดว่า โดยสอง
สามวัน เราจะเอาพระอรหัตผลให้ได้ ก็ยังเอาไม่ได้ สามเดือนก็เหมือน
สามวันนั่นแหละ คอยถึงวันมหาปวารณาก่อนจะรู้ ถึงเข้าพรรษาแล้วก็ยังเอา
ไม่ได้. ในวันปวารณาท่านคิดว่า เรามาแล้วด้วยคิดว่า โดยสองสามวัน เราจะ
เอาพระอรหัตผลให้ได้ นี่ก็ตั้งสามแล้ว ก็ยังไม่สามารถจะเอาได้ ส่วนพวก
เพื่อนพรหมจรรย์ จะปวารณาชนิดวิสุทธิปวารณากัน เมื่อท่านคิดอย่างนั้น
สายน้ำตาก็หลั่งไหล. จากนั้นท่านคิดว่า มรรคผล จะไม่เกิดขึ้นเพราะอิริยาบถ 4
ของเราบนเตียง ถ้าเดี๋ยวนี้ยังไม่บรรลุพระอรหัตผล เราจะไม่ยอมเหยียดหลัง