เมนู

พระเจ้าเรณุรับสั่งกับบุรุษคนใดคนหนึ่งว่า บุรุษ เธอมานี่ เธอจงไปหา
มหาโควินทพราหมณ์ แล้วกล่าวกะมหาโควินทพราหมณ์อย่างนี้ว่า พระเจ้า
เรณุรับสั่งเรียกใต้เท้า. บุรุษนั้น รับสนองพระราชโองการของพระเจ้าเรณุว่า
ขอรับใส่เกล้า พระพุทธเจ้าข้า ดังนี้แล้ว จึงไปหามหาโควินทพราหมณ์แล้ว
ได้กล่าวคำนี้กะมหาโควินทพราหมณ์ว่า พระคุณท่าน พระเจ้าเวณุสั่งเรียก
ใต้เท้า ขอรับกระผม. มหาโควินทพราหมณ์ก็รับคำของบุรุษนั้น แล้วจึงเข้า
เฝ้าพระเจ้าเรณุ แล้วกราบทูลสนทนาสัมโมทนียกถาพอให้คิดถึงกันแล้วจึงนั่ง
ที่ส่วนข้างหนึ่ง. พระเจ้าเรณุ ได้ทรงมีพระราชดำรัสนี้กับมหาโควินทพราหมณ์
ผู้นั่งแล้วที่ส่วนข้างหนึ่งนั่นแหละว่า ท่านโควินท์จงมาแบ่งมหาปฐพีนี้ที่ยาวไป
ทางเหนือและทางใต้เป็นเหมือนทางเกวียนให้เป็น 7 ส่วนอย่างดีเท่ากัน. ท่าน
มหาโควินทพราหมณ์ รับสนองพระราชบัญชาของพระเจ้าเรณุ แล้วก็แบ่ง
ชนิดแบ่งอย่างดีซึ่งมหาปฐพีนี้ ที่ยาวไปทางเหนือและทางใต้เป็นเหมือนทาง
เกวียนเป็น 7 ส่วนเท่ากัน คือทั้งทุกส่วนให้เหมือนทางเกวียน เล่ากันมาว่า
ส่วนตรงท่ามกลางนั้นเป็นชนบทของพระเจ้าเรณุ.
[221] เมืองที่โควินท์สร้างไว้แล้วเหล่านี้คือ
ทันตปุระแห่งแคว้นกาลิงค์ 1 โปตนะแห่ง
แคว้นอัสสกะ 1 มาหิสสดี (มเหสัย) แห่ง
แคว้นอวันตี 1 โรรุกะแห่งแคว้นโสจิระ
(สะวีระ) 1 มิถิลาแห่งแคว้นวิเทหะ 1
สร้างเมืองจัมปาในแคว้นอังคะ 1 และ
พาราณสีแห่งแคว้นกาสี 1.

[222] ครั้งนั้นแล กษัตริย์ 6 พระองค์นั้นทรงเป็นผู้ชื่นใจ ทรง
มีความดำริเต็มที่แล้วด้วยลาภตามที่เป็นของตน ทรงคิดว่า โอหนอ พวกเรา