เมนู

ร้อยกรองไว้แต่เมื่อไร ความว่า (คาถาเหล่านี้เธอ) แต่งคือรวบรวมไว้แต่
ครั้งไร.
คำว่า พระพุทธเจ้าข้า ก็สมัยนั้นแล ข้าพระองค์ ความว่า
โดยสมัยนั้น คือในสัปดาห์ที่แปดแต่พระองค์บรรลุสัมโพธิญาณนั้น. คำว่า
ชื่อ ภัทราสุริยวัจฉสา คือโดยชื่อ ชื่อ ภัทรา เพราะถึงพร้อมด้วย
รูปร่าง ที่สวยงาม จึงชื่อ สุริยวัจฉสา. คำว่า น้อง นี้เป็นคำสำนวนเรียก. หมาย
ความว่า เทพธิดา. คำว่า รักผู้อื่นอยู่ คือ รัก ได้แก่ หวังผู้อื่นอยู่. คำว่า
กำลังเข้าไปฟ้อนอยู่ ได้แก่ กำลังรำอยู่. เล่ากันมาว่า สมัยหนึ่ง นางไป
เพื่อต้องการชมงานฟ้อนของท้าวสักกเทวราชกับพวกเทพชั้นจาตุมหาราชิกา. ก็
ในขณะนั้น ท้าวสักกะได้ทรงกล่าวสรรเสริญพระคุณตามที่เป็นจริงแปดประการ
ของพระตถาคตเจ้า. ด้วยประการฉะนี้ ก็เป็นอันว่าในวันนั้น นางก็ได้ไปชม
การฟ้อน.

คำว่า ย่อมเพลิดเพลินต่อกัน ความว่า เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสคำเป็นต้นว่า ย่อมกลมกลืนแท้ ของเธอ ก็ชื่อว่าทรงเพลิดเพลิน ปัญจสิขะ
ก็ชื่อว่าเพลิดเพลินตอบ เมื่อปัญจสิขะกำลังกล่าวคาถาอยู่ ก็ชื่อว่าเพลิดเพลิน
พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ชื่อว่าทรงเพลิดเพลินตอบ. คำว่า ตรัสเรียก คือทรง
แจ้งให้ทราบ. ได้ทราบมาว่า ท้าวสักกะนั้นได้ทรงมีพระดำริอย่างนี้ว่า เราส่ง
ปัญจสิขะนี้ไปด้วยงานของเรา เขาก็ไปทำงานของตัวเองเสีย เขายืนอยู่ในสำนัก
พระศาสดาผู้เห็นปานนั้นแล้ว ไปกล่าวถ้อยคำที่ประกอบด้วยกามคุณ ซึ่งเป็นคำ
ที่หาสมควรไม่ ก็ขึ้นชื่อว่าพวกนักฟ้อนเป็นพวกไร้ยางอาย ปัญจสิขะเมื่อกำลัง
กล่าวอยู่พึงแสดงอาการที่ประหลาดก็ได้ เอาล่ะ เราจะเตือนให้เขารู้งานของเรา
เมื่อทรงคิดดังนี้แล้วก็ตรัสเรียกมา.