เมนู

กลมกลืนกัน เป็นอย่างดีแล้ว. น้ำจากแม่น้ำคงคากับน้ำจากแม่น้ำยมุนา ย่อม
กลมกลืนกัน เข้ากันได้อย่างเรียบร้อย ชื่อแม้ฉันใด พระผู้มีพระภาคเจ้าพระ
องค์นั้น ก็ทรงบัญญัติข้อปฏิบัติสำหรับไปให้ถึงพระนิพพานแก่พระสาวก
ทั้งหลาย ทั้งพระนิพพานทั้งข้อปฏิบัติก็กลมกลืนกัน เป็นอย่างดีแล้ว ฉันนั้น
นั่นเทียว. เราไม่พิจารณาเห็นศาสดาผู้ที่บัญญัติข้อปฏิบัติสำหรับไปให้ถึงพระ
นิพพานได้อย่างนี้ ผู้ประกอบพร้อมด้วยองค์แม้นี้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนอดีต และ
ไม่ว่าปัจจุบันนี้เลย นอกจากพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น .
[5] พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ทรงได้พระสหายแห่งข้อปฏิบัติ
ของพระผู้ยังต้องศึกษาอีกเทียว และพระผู้สิ้นอาสวะ ผู้จบวัตรแล้ว พระผู้มี
พระภาคเจ้าไม่ทรงติดด้วยข้อปฏิบัติ และวัตรนั้น ทรงตามประกอบความเป็น
ผู้เดียว เป็นที่มาแห่งความยินดีอยู่. เราไม่พิจารณาเห็นศาสดาที่ทรงประกอบ
ความเป็นผู้ยินดีในความเป็นผู้เดียวอย่างนี้ ผู้ถึงความพร้อมด้วยองค์แม้นี้ ไม่
ว่าจะเป็นส่วนอดีต และไม่ว่าปัจจุบันนี้เลย นอกจากพระผู้มีพระภาคเจ้า
พระองค์นั้น.
[6] ลาภสำเร็จอย่างยิ่ง ชื่อเสียงก็สำเร็จอย่างยิ่ง แด่พระผู้มีพระ
ภาคเจ้าพระองค์นั้น ปานกับพวกกษัตริย์ที่ทรงพระสิริโฉมสง่า น่ารักอยู่ ก็
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นแล ทรงปราศจากความเมา เสวยพระอาหาร.
เราไม่พิจารณาเห็นศาสดาที่ปราศจากความเมา บริโภคอาหารอยู่อย่างนี้ ผู้ถึง
พร้อมด้วยองค์แม้นี้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนอดีต และไม่ว่าปัจจุบันนี้เลย นอกจาก
พระตถาคตเจ้าพระองค์นั้น.
[7] พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ทรงเป็นผู้มีปกติตรัสอย่างไร
ก็ทรงมีปกติทำอย่างนั้น ทรงมีปกติทำอย่างไร ก็ทรงมีปกติตรัสอย่างนั้น
ด้วยประการฉะนี้ ก็เป็นอันว่า ทรงเป็นผู้มีปกติตรัสอย่างไร ก็ทรงมีปกติทำ

อย่างนั้น ทรงมีปกติทำอย่างไร ก็ทรงมีปกติตรัสอย่างนั้น. เราไม่พิจารณา
เห็นศาสดาที่ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมอย่างนี้ ผู้ประกอบพร้อมด้วยองค์แม้นี้
ไม่ว่าในส่วนอดีตหรือในปัจจุบันนี้ ยกเว้นแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
[8] พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ทรงข้ามความสงสัยได้แล้ว
ปราศจากความเคลือบแคลง สิ้นสุดความดำริเกี่ยวกับอัชฌาสัย เกี่ยวกับข้อ
ปฏิบัติ อันเป็นส่วนเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์. เราไม่พิจารณาเห็นศาสดาที่ข้าม
ความสงสัยได้ ปราศจากความเคลือบแคลงสิ้นสุดความดำริ เกี่ยวกับอัชฌาสัย
เกี่ยวกับข้อปฏิบัติอันเป็นส่วนเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์อย่างนี้ ผู้ประกอบ
พร้อมด้วยองค์แม้นี้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนอดีต และไม่ว่าปัจจุบันนี้เลย ยกเว้น
แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น.
พระพุทธเจ้าข้า ท้าวสักกะจอมทวยเทพ ได้ตรัสถึงพระคุณตามที่
เป็นจริง 8 ประการ เหล่านี้แก่ สนังกุมารพรหม.
[219] เพราะเหตุนั้น พระเจ้าข้า จึงเล่ากันมาว่า สนังกุมารพรหม
จึงชื่นใจ บันเทิง เกิดปิติโสมนัส เมื่อได้ฟังพระคุณตามที่เป็นจริง 8 ประการ
ของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ครั้งนั้น สนังกุมารพรหม นิมิตอัตภาพใหญ่ยิ่งเป็น
เพศกุมาร ไว้ผม 5 จุก ปรากฏแก่ทวยเทพชั้นดาวดึงส์. สนังกุมารพรหมนั้น
เหาะขึ้นสู่ฟ้านั่งโดยบัลลังก์ในอากาศ บุรุษมีกำลังพึงนั่งบนบัลลังก์ที่ปูลาดไว้
เป็นอย่างดี หรือโดยบัลลังก์บนภาคพื้นที่เสมอแม้ฉันใด สนังกุมารพรหมก็
ฉันนั้น เหาะขึ้นสู่ฟ้า นั่งโดยบัลลังก์ในอากาศแล้ว เรียกพวกเทพชั้นดาวดึงส์
ว่า ท่านผู้เจริญทั้งหลาย พวกเทพชั้นดาวดึงส์จะสำคัญข้อนั้นเป็นไฉนว่า พระ
ผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ทรงมีพระปัญญายิ่งใหญ่มาตลอดกาลนานเพียงไร