เมนู

ท้าวสักกะจอมเทพ ทรงเรียกพวกเทพชั้นดาวดึงส์มาตรัสว่า เพื่อนทั้งหลาย
นิมิตรทั้งหลายย่อมปรากฏ แสงสว่างอันอุฬารเกิดขึ้นอย่างแจ่มจ้า รัศมีย่อม
ปรากฏขึ้นมาโดยประการใด พรหมก็จักปรากฏขึ้นโดยประการนั้น เพราะเกิด
แสงสว่างอย่างเจิดจ้า รัศมีก็ปรากฏขึ้นมานี้ เป็นบุพนิมิตแห่งการปรากฏของ
พรหม.
[215] นิมิตทั้งหลาย ย่อมปรากฏโดยประการ
ใด พรหมก็จักปรากฏโดยประการนั้น
เพราะการที่โอภาสอันไพบูลย์มาก ปรากฏ
นี้เป็นบุพนิมิตของพรหม.

[216] ครั้งนั้น พระพุทธเจ้าข้า พวกเทพชั้นดาวดึงส์นั่งบนอาสนะ
ของตน ๆ แล้วพูดว่า พวกเราจักรู้แสงนั้น สิ่งใดจักเป็นวิบาก เราทำให้แจ้ง
สิ่งนั้น แล้วจึงจักไป. แม้มหาราชทั้ง 4 พระองค์ ก็ประทับนั่งบนอาสนะ
ของตน ๆ แล้วก็ตรัสว่า พวกเราจักรู้แสงนั้น สิ่งใดจักเป็นวิบาก เราทำให้
แจ้งสิ่งนั้นแล้ว จึงจักไป. เมื่อฟังคำนี้แล้ว พวกเทพชั้นดาวดึงส์ ทำใจ
ให้แน่วแน่ สงบอยู่ด้วยคิดว่า เราจักรู้แสงนั้น ผลจักเป็นอย่างไร เรา
ทำให้แจ้งผลนั้นแล้ว จึงจักไป. ตอนที่สนังกุมารพรหมจะปรากฏกายแก่พวก
เทพชั้นดาวดึงส์ ท่านจำแลงอัตภาพชนิดหยาบแล้ว จึงปรากฏ. ก็แหละ
ผิวพรรณโดยปกติของพรหม ไม่พึงปรากฏในสายตาของพวกเทพชั้นดาวดึงส์
ได้ ตอนที่สนังกุมารพรหมจะปรากฏกายแก่พวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ ท่าน
รุ่งเรืองยิ่งกว่าหมู่เทพเหล่าอื่นทั้งโดยรัศมี ทั้งโดยยศ. ตอนที่สนังกุมารพรหม
ปรากฏกายแก่พวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ ท่านรุ่งเรืองยิ่งกว่าหมู่เทพเหล่าอื่น
ทั้งโดยรัศมี ทั้งโดยยศ แม้ถ้าจะเปรียบก็เหมือนร่างทอง ย่อมรุ่งเรือง
ยิ่งกว่าร่างที่เป็นของมนุษย์ ฉะนั้นแล. ตอนที่สนังกุมารพรหมปรากฏกายแก่

พวกเทพชั้นดาวดึงส์ ในบริษัทนั้นไม่มีเทพองค์ใด อภิวาทลุกขึ้นรับ หรือ
เชื้อเชิญด้วยอาสนะเลย. นิ่งกันหมดเทียว ประณมมือนั่งบนบัลลังก์ คราวนี้
สนังกุมารพรหมจักต้องการบัลลังก์ ของเทพองค์ใด ก็จักนั่งบนบัลลังก์ของ
เทพองค์นั้น. ก็สนังกุมารพรหม นั่งบนบัลลังก์ของเทพองค์ใดแล เทพองค์นั้น
ก็ย่อมได้รับความยินดีอันยิ่งใหญ่ เทพองค์นั้นย่อมได้รับความดีใจอันยิ่งใหญ่
สนังกุมารพรหม นั่งบนบัลลังก์ของเทพองค์ใด เทพองค์นั้นก็ย่อมได้รับความ
ยินดีอันยิ่งใหญ่ เทพองค์นั้นย่อมได้รับความดีใจอันยิ่งใหญ่ ถ้าจะเปรียบ
ก็เหมือนพระราชาผู้เป็นกษัตริย์ ได้รับมุรธาภิเษก ได้รับอภิเษกมาไม่นาน
พระราชานั้นย่อมจะทรงได้รับความยินดีอันยิ่งใหญ่ พระราชานั้นย่อมจะทรง
ได้รับซึ่งความดีพระทัยอันยิ่งใหญ่ ฉะนั้น.

คาถาอนุโมทนาของสนังกุมารพรหม



ครั้งนั้น สนังกุมารพรหมทราบ ความเลื่อมใสพร้อมของทวยเทพชั้น
ดาวดึงส์แล้ว ก็หายไป อนุโมทนาด้วยคาถาเหล่านี้ว่า
[217] โอหนอ ท่านผู้เจริญ พวกเทพชั้น
ดาวดึงส์ พร้อมกับพระอินทร์ ย่อมบันเทิง
ไหว้อยู่ซึ่งพระตถาคต และความที่พระ
ธรรมเป็นธรรมดี .
เห็นอยู่ซึ่งพวกเทพรุ่นใหม่เทียว ผู้มี
รัศมี มียศ ประพฤติพรหมจรรย์ในพระ
สุคตแล้วมาในที่นี้.
พวกเทพเหล่านั้นรุ่งเรืองยิ่งกว่าพวก
เทพเหล่าอื่น โดยรัศมี โดยยศ โดยอายุ