เมนู

กถาว่าด้วยพระนางสุภัททาเทวี


[182] อานนท์ ก็สมัยนั้นแล ช้าง 84,000 เชือก มาสู่ที่เฝ้าพระ-
เจ้ามหาทัสสนะ ทุกเช้า ทุกเย็น. อานนท์ ครั้งนั้น พระเจ้ามหาสุทัสสนะทรง
มีพระดำริอย่างนี้ว่า พวกช้าง 84,000 เชือกเหล่านี้แล มาสู่ที่เฝ้าเราทั้งเช้า
เย็น ถ้าไฉน ช้าง 42,000 เชือกพึงมาสู่ที่เฝ้าโดยล่วงไปร้อยปี ต่อครั้ง.
อานนท์ ทีนั้น พระเจ้ามหาสุทัสสนะรับสั่งเรียกปริณายกแก้ว มาตรัสสั่งว่า ดู
ก่อน ปริณายกแก้ว พวกช้าง ตั้ง 84,000 เชือกเหล่านี้ มาสู่ที่เฝ้าเราทั้งเช้า
และเย็น อย่ากระนั้นเลย ช้างเพียง 42,000 เชือกจงมาสู่ที่เฝ้าแต่ละครั้งโดย
ล่วงไปทุก ๆ ร้อยปี. ปริณายกแก้วรับพระราชโองการของพระเจ้ามหาสุทัสสนะ
ว่า อย่างนั้น ขอเดชะ. อานนท์ ครั้งนั้นโดยสมัยอื่น ช้างจึงมาสู่ที่เฝ้าพระ-
มหาสุทัสสนะคราวละสี่หมื่นสองพันเชือก โดยล่วงไปทุก ๆร้อยปี. อานนท์ ครั้ง
นั้นแล พระนางสุภัททาเทวี โดยล่วงไปหลายปี หลายร้อยปี หลายพันปี ทรง
พระดำริว่า เราได้เฝ้าพระเจ้ามหาทัสสนะมานานแล้ว ถ้ากระไร เราพึงเข้าไป
เฝ้าพระเจ้ามหาสุทัสสนะเถิด. อานนท์ ครั้งนั้นแล พระนางสุภัททาเทวี รับ
สั่งเรียกนางสนมมาตรัสว่า พวกท่านในที่นี้ จงสระหัว จงห่มผ้าสีเหลือง
พวกเราได้เฝ้าพระเจ้ามหาทัสสนะนานแล้ว พวกเราพึงเข้าไปเฝ้าพระเจ้ามหา-
สุทัสสนะ. พวกนางสนมรับสนองพระเสาวนีย์ ของพระนางสุภัททาเทวีว่า
อย่างนั้น. พระแม่เจ้า แล้วก็สระหัวห่มผ้าสีเหลือง เข้าไปเฝ้าพระนางสุภัททา
เทวีถึงที่ประทับ. อานนท์ ครั้งนั้นแล พระนางสุภัททาเทวีรับสั่งกับปริณายก
แก้วว่า พ่อปริณายกแก้ว ท่านจงจัดกองทัพ 4 เหล่า พวกเราได้เฝ้าพระเจ้า
มหาสุทัสสนะนานมาแล้ว พวกเราพึงเข้าไปเฝ้าพระเจ้ามหาสุทัสสนะ. อานนท์
ปริณายกแก้วรับพระเสาวนีย์ของพระนางสุภัททาเทวีว่า อย่างนั้น พระเทวี-
เจ้า แล้วจัดกองทัพ 4 เหล่า เสร็จแล้วกราบทูลพระนางสุภัททาเทวีว่า พระ-

เทวีเจ้า ข้าพระพุทธเจ้า จัดกองทัพ 4 เหล่าสำหรับพระองค์เสร็จแล้ว ขอพระเทวี
เจ้าโปรดทรงสำคัญเวลาอันสมควรเถิด. อานนท์ ครั้งนั้นแล พระนางสุภัททา
เทวี พร้อมกับนางสนมเสด็จเข้าไปจนถึงธรรมปราสาทด้วยกองทัพ 4 เหล่า
เสด็จขึ้นธรรมปราสาทแล้วเสด็จเข้าไปจนถึงเรือนยอดหลังใหญ่ แล้วประทับ
ยืนเหนี่ยวบานประตูแห่งเรือนยอดหลังใหญ่. อานนท์ ลำดับนั้น พระเจ้า
มหาสุทัสสนะ ทรงได้ยินเสียงทรงดำริว่า อะไรหนอ นั้นเหมือนเสียงคน
จำนวนมาก แล้วเสด็จออกจากเรือนยอดหลังใหญ่ ได้ทอดพระเนตรเห็น
พระนางภัททาเทวีประทับยืนยึดประตู แล้วตรัสกับพระนางสุภัททาเทวีอย่างนี้
ว่า เทวี หยุดตรงนั้นแหละ อย่าเข้ามา. อานนท์ ลำดับนั้น พระเจ้ามหาสุทัสสนะ
รับสั่งกะบุรุษคนใดคนหนึ่งว่า แน่พ่อ เธอจงมาช่วยกันยกบัลลังก์ทองจากเรือน
ยอดหลังใหญ่ เอาไปตั้งที่สวนตาลที่แล้วไปด้วยทองทุกอย่าง. บุรุษนั้นก็สนอง
พระดำรัสของพระเจ้ามหาสุทัสสนะว่า อย่างนั้น ขอเดชะ. แล้วก็ไปยกบัลลังก์
ทองจากเรือนยอดหลังใหญ่ เอาไปตั้งที่สวนตาลที่แล้วไปด้วยทองทุกอย่าง.
อานนท์ ลำดับนั้น พระเจ้ามหาสุทัสสนะทรงสำเร็จสีหไสยาสน์ด้วยพระปรัศว์
เบื้องขวา ซ้อนพระบาทเหลื่อมพระบาทมีพระสติสัมปชัญญะ.
[183] อานนท์ ลำดับนั้น พระนางสุภัททาเทวี ได้ทรงมีพระดำริ
อย่างนี้ว่า พระอินทรีย์ของพระเจ้ามหาสุทัสสนะบริสุทธิ์ผ่องใส พระฉวีวรรณ
ขาวผ่อง ขอให้พระเจ้ามหาสุทัสสนะอย่าได้เสด็จสวรรคตเลย. แล้วได้ตรัส
อย่างนี้กับพระเจ้ามหาสุทัสสนะว่า ขอเดชะ เหล่านี้เป็นพระนคร 84,000 นคร
มีกุสาวดีราชธานีเป็นประมุขของพระองค์ ขอเดชะ ขอพระองค์จงบังเกิดความ
พอพระหฤทัยในพระนครเหล่านั้นเถิด จงทรงห่วงใยในพระชนมชีพเถิด ขอ
เดชะ เหล่านี้คือปราสาทแปดหมื่นสี่พันองค์ของพระองค์ มีธรรมปราสาทเป็น
ประมุข ขอเดชะ ขอพระองค์จงบังเกิดความพอพระหฤทัยในปราสาทเหล่านั้น

เถิด จงทรงห่วงใยในพระชนมชีพเถิด ขอเดชะ เหล่านี้คือเรือนยอดแปดหมื่น
สี่พันหลังของพระองค์ มีเรือนยอดหลังใหญ่เป็นประมุข ขอเดชะ ขอพระองค์
จงบังเกิดความพอพระหฤทัยในเรือนยอดเหล่านั้นเถิด จงทรงห่วงใยในพระ-
ชนมชีพเถิด ขอเดชะ เหล่านี้คือบัลลังก์แปดหมื่นสี่พันที่ของพระองค์ทำด้วย
ทอง เงิน งาช้าง บุษราคัม ลาดด้วยขนเจียม ลาดด้วยสักหลาด ลาดด้วย
ผ้าปักลวดลาย ลาดด้วยหนังกวางอย่างดี มีพนักสูง มีนวมแดงสองข้าง ขอ
เดชะ ขอพระองค์จงบังเกิดความพอพระหฤทัยในบัลลังก์เหล่านั้นเถิด จงทรง
ห่วงใยในพระชนมชีพเถิด ขอเดชะ เหล่านี้คือ ช้างแปดหมื่นสี่พันเชือกของ
พระองค์ มีเครื่องแต่งเป็นทอง ปักธงทอง หุ้มด้วยตาข่ายทอง มีพญาช้าง
อุโบสถเป็นประมุข ขอเดชะ ขอพระองค์จงบังเกิดความพอพระหฤทัยในช้าง
เหล่านั้นเถิด จงทรงห่วงใยในพระชนมชีพเถิด ขอเดชะ เหล่านี้คือ ม้า
แปดหมื่นสี่พันตัวของพระองค์ มีเครื่องแต่งเป็นทอง ปักธงทอง หุ้มด้วย
ตาข่ายทอง มีพญาม้าวลาหกเป็นประมุข ขอเดชะ ขอพระองค์จงบังเกิดความ
พอพระราชหฤทัยในม้าเหล่านั้นเถิด จงทรงห่วงใยในพระชนมชีพเถิด ขอเดชะ
เหล่านี้คือรถแปดหมื่นสี่พันคันของพระองค์ หุ้มด้วยหนังราชสีห์ หุ้มด้วยหนัง
เสือโคร่ง หุ้มด้วยหนังเสือเหลือง หุ้มด้วยผ้าขนสัตว์สีเหลือง มีเครื่องแต่งเป็น
ทอง ปักธงทอง หุ้มด้วยตาข่ายทอง มีรถไพชยันต์เป็นประมุข ขอเดชะ
ขอพระองค์จงบังเกิดความพอพระหฤทัยในรถเหล่านั้นเถิด ขอจงทรงห่วงใยใน
พระชนมชีพเถิด ขอเดชะ เหล่านี้คือแก้วแปดหมื่นสี่พันดวงของพระองค์มี
แก้วมณีเป็นประมุข ขอเดชะ ขอพระองค์จงทรงบังเกิดความพอพระหฤทัยใน
แก้วเหล่านั้นเถิด ขอจงทรงห่วงใยในพระชนมชีพเถิด ขอเดชะ เหล่านี้คือ
สตรีแปดหมื่นสี่พันนางของพระองค์มีหญิงแก้วเป็นประมุข ขอเดชะ ขอพระ-
องค์จงทรงบังเกิดความพอพระหฤทัยในสตรีเหล่านั้นเถิด ขอจงทรงห่วงใยใน

พระชนมชีพเถิด ขอเดชะ เหล่านี้คือ คฤหบดี 88,000 คน ของพระองค์
มีคฤหบดีแก้วเป็นประมุข ขอเดชะ ขอพระองค์จงทรงบังเกิดความพอพระ-
หฤทัยในคฤหบดีเหล่านั้นเถิด ขอจงทรงห่วงใยในพระชนมชีพเถิด ขอเดชะ
เหล่านั้นคือกษัตริย์ 84,000 พระองค์ ผู้จงรักภักดีต่อพระองค์มีปริณายกแก้ว
เป็นประมุข ขอเดชะ. ขอพระองค์จงทรงบังเกิดความพอพระหฤทัยในกษัตริย์
เหล่านั้นเถิด จงทรงห่วงใยในพระชนมชีพเถิด ขอเดชะ เหล่านี้คือ แม่โคนม
84,000 ตัว ของพระองค์ ซึ่งกำลังหลั่งน้ำนม กำลังเอาถาดสำริดไปรอง
ขอเดชะ ขอพระองค์จงทรงบังเกิดความพอพระหฤทัยในแม่โคนมเหล่านั้นเถิด
ขอจงทรงห่วงใยในพระชนมชีพเถิด ขอเดชะ เหล่านี้คือ ผ้า 84,000 โกฏิ
พับของพระองค์ เป็นผ้าเปลือกไม้อย่างดี ผ้าฝ้ายอย่างดี ผ้าไหมอย่างดี ผ้า
ขนสัตว์อย่างดี ขอเดชะ ขอพระองค์จงทรงบังเกิดความพอพระหฤทัยในผ้า
เหล่านั้นเถิด จงทรงห่วงใยในพระชนมชีพเถิด ขอเดชะ เหล่านี้คือ ถาด
พระกระยาหาร 84,000 สำรับ ของพระองค์ซึ่งมีคนนำมาถวายในเวลาเช้า และ
เวลาเย็น ขอเดชะ ขอพระองค์จงทรงบังเกิดความพอพระหฤทัยในถาดพระ-
กระยาหารเหล่านั้นเถิด ขอจงทรงห่วงใยในพระชนมชีพเถิด.

ว่าด้วยความสลดพระทัยของพระเจ้ามหาสุทัสสนะ



เมื่อพระนางกราบทูลอย่างนี้แล้ว อานนท์ พระเจ้ามหาสุทัสสนะได้ตรัส
อย่างนี้กับพระนางสุภัททาเทวีว่า เทวี เธอได้ทักทายเราด้วยของน่ารัก น่า
ใคร่ น่าพอใจ มานานแล้ว ก็แต่ในเวลาภายหลัง เธอจะทักเรา ด้วยของที่
ไม่น่ารัก ไม่น่าใคร่ ไม่น่าพอใจ. ขอเดชะ ก็แลพระองค์จะให้หม่อมฉันทัก
ทายพระองค์อย่างไร. เทวี เธอจงทักทายเราดังนี้ว่าความเป็นต่าง ๆ ความ
พลัดพราก ความเป็นอย่างอื่นจากของน่ารัก น่าพอใจทั้งหมดทีเดียว ย่อมมี