เมนู

บุษราคัมมีลำต้นเป็นบุษราคัมใบและผลเป็นโกเมน. ทับทิมตาลผสมแก้วทุก
ชนิด เอาแก้วทุกชนิดมาทำเป็นลำต้นใบและผลก็ผสมแก้วทุกชนิด. อานนท์
ก็แล เมื่อแถวตาลเหล่านั้นถูกลมพัดก็มีเสียงไพเราะ น่าใคร่ ทำให้ใจคึกคัก
และชักให้หลงใหล. เหมือนกับเสียงดนตรีมีองค์ 5 ที่นักดนตรีผู้ชำนาญปรับ
ดีแล้ว ประโคมแล้ว บรรเลงดีแล้ว เป็นเสียงที่ไพเราะ น่าใคร่ ทำให้ใจคึกคัก
และชักให้หลงใหลแม้ฉันใด ดูก่อนอานนท์ เสียงแห่งแถวต้นตาลเหล่านั้น
ต้องลมพัดก็ฉันนั้นเหมือนกัน. ส่วนพวกนักเลง นักเล่น นักดื่ม แห่งกรุง
กุสาวดีสมัยนั้น ต่างก็พากันคลอเสียงตามเสียงแถวตาลที่ถูกลมพัด. อานนท์
ก็แหละ ครั้นเมื่อเสร็จธรรมปราสาท และธรรมาโบกขรณีแล้ว พระเจ้ามหา-
สุทัสสนะ ก็โปรดให้เลี้ยงดูพวกสมณะที่รู้กันทั่วไปว่าเป็นสมณะ หรือพวก
พราหมณ์ที่ยอมรับกันว่าเป็นพราหมณ์ในสมัยนั้นให้อิ่มหนำสำราญด้วยของน่า
ใคร่ทุกชนิด เสด็จขึ้นสู่ธรรมปราสาท ด้วยประการฉะนี้.
จบ ภาณวารที่หนึ่ง

การเข้าปฐมฌานเป็นต้น



[179] อานนท์ ลำดับนั้น พระเจ้ามหาสุทัสสนะได้ทรงพระดำริ
อย่างนี้ว่า นี้เป็นผลของกรรมอะไรของเราหนอ เป็นวิบากของกรรมอะไรที่
เป็นเหตุให้เรามีฤทธิ์อย่างนี้ มีอานุภาพใหญ่อย่างนี้ ในบัดนี้. อานนท์ ครั้งนั้น
แล พระเจ้ามหาสุทัสสนะ ได้ทรงมีพระดำริอย่างนี้ว่า นี้เป็นผลของกรรม
สามอย่างของเรา เป็นวิบากของกรรมสามอย่างที่เป็นเหตุให้เรามีฤทธิ์ใหญ่
อย่างนี้ มีอานุภาพใหญ่อย่างนี้ในบัดนี้ คือเป็นผลเป็นวิบากแห่งทาน ทมะ
สัญญมะ อานนท์ ที่นั้น พระเจ้ามหาสุทัสสนะ เสด็จเข้าเรือนยอดหลังใหญ่
แล้วประทับยืนที่ประตูเรือนยอดหลังใหญ่ ทรงเปล่งพระอุทานว่า หยุดกาม

วิตก หยุดพยาบาทวิตก หยุดวิหิงสาวิตก เท่านี้พอละ กามวิตก เท่านี้พอละ
พยาบาทวิตก เท่านี้พอละ วิหิงสาวิตก. อานนท์ ทีนั้น พระเจ้ามหาสุทัสสนะ
เสด็จเข้าสู่เรือนยอดหลังใหญ่ ประทับบนบัลลังก์ที่แล้วไปด้วยทองทรงสงัดจาก
กาม สงัดจากอกุศลธรรม ทรงเข้าถึงฌาน ที่ 1 ซึ่งมีวิตก มีวิจาร มีปีติและ
สุขเกิดแต่วิเวกอยู่ เพราะระงับวิตก วิจาร จึงทรงเข้าถึงฌานที่ 2 ซึ่งมีความ
ผ่องใสแห่งใจในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีปีติและ
สุขที่เกิดแต่สมาธิอยู่ เพราะคลายปีติเสียได้ เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ มีสัม-
ปชัญญะ เสวยความสุขทางกาย เข้าถึงฌานที่ 3 ที่พวกอาจารย์ต่างพูดว่า
เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ มีปรกติอยู่เป็นสุขอยู่ เพราะละสุขและทุกข์ได้ เพราะ
ดับโสมนัสและโทมนัสก่อน ๆ จึงเข้าถึงฌานที่ 4 ที่ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุข มี
อุเบกขาและสติบริสุทธิ์อยู่.

การเจริญพรหมวิหาร



[180] อานนท์ ลำดับนั้น พระเจ้ามหาสุทัสสนะ เสด็จออกจาก
เรือนยอดหลังใหญ่แล้วทรงเข้าสู่เรือนยอดที่แล้วไปด้วยทอง ประทับบนบัลลังก์
ที่แล้วไปด้วยเงิน ทรงแผ่ไปตลอดทิศหนึ่งด้วยพระหฤทัยที่สหรคตด้วยเมตตา
แล้วอยู่ ทิศที่ 2 ก็อย่างนั้น ทิศที่ 3 ก็อย่างนั้น ทิศที่ 4 ก็อย่างนั้น. ด้วย
ประการฉะนี้ ทรงแผ่ไปทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง ทุกหนทุกแห่ง
จนสิ้นหมดทั้งโลก ด้วยพระหฤทัยที่สหรคตด้วยเมตตา อันไพบูลย์ถึงความ
เป็นใหญ่หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาทอยู่ ด้วยพระหฤทัยที่สหรคต
ด้วยกรุณา. ด้วยพระหฤทัยสหรคตด้วยมุทิตา. ทรงแผ่ไปตลอดทิศหนึ่ง ด้วย
พระหฤทัยที่สหรคตด้วยอุเบกขาอยู่ ทิศที่ 2 ก็อย่างนั้น ทิศที่ 3 ก็อย่างนั้น
ทิศที่ 4 ก็อย่างนั้น ด้วยประการฉะนี้ ทรงแผ่ไปทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง