เมนู

เป็นอย่างอื่นจากสิ่งและบุคคลอันเป็นที่รักที่ชอบใจทั้งสิ้นต้องมี ข้อนั้น จะหาได้
ได้ในสิ่งและบุคคลอันเป็นที่รักที่ชอบใจนี้แต่ที่ไหน สิ่งใดเกิดแล้วมีแล้วปัจจัย
ปรุงแต่งแล้ว มีความทำลายเป็นธรรมดา ความปรารถนาว่า ขอสิ่งนั้นอย่าทำ
ลายไปเลยดังนี้ ไม่เป็นฐานที่จะมีได้ พวกเทวดาพากันยกโทษอยู่. ท่านพระ-
อานนท์ถามว่า ท่านอนุรุทธะ พวกเทวดาการทำไว้ในใจเป็นอย่างไร. พระ
อนุรุทธะตอบว่า อานนท์ มีเทวดาบางพวกสำคัญอากาศว่าเป็นแผ่นดิน สยายผม
ประคองแขนทั้งสองคร่ำครวญอยู่ ล้มลงกลิ้งเกลือกไปมาเหมือนเท้าขาดแล้ว
รำพันว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าปรินิพพานเร็วนัก พระสุคตปรินิพพานเร็วนัก
พระองค์ผู้มีพระจักษุในโลกอันตรธานเร็วนัก มีเทวดาบางพวกสำคัญแผ่นดินว่า
เป็นแผ่นดินสยายผมคร่ำครวญอยู่. . .อันตรธานเร็วนัก. ส่วนเทวดาที่ปราศ
จากราคะแล้ว มีสติสัมปชัญญะอดกลั้นอยู่ว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ
ข้อนั้นจะหาได้ในสังขารนี้แต่ที่ไหน.
ลำดับนั้น ท่านอนุรุทธะและท่านพระอานนท์ยังราตรีที่เหลือนั้น ให้
ล่วงไปด้วยธรรมีกถา. ท่านพระอนุรุทธะสั่งท่านพระอานนท์ว่า ไปเถิด อานนท์
ท่านจงเข้าไปเมืองกุสินารา บอกแก่พวกมัลลกษัตริย์เมืองกุสินาราว่า ดูก่อน
วาสิฏฐะทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคเจ้าปรินิพพานแล้ว ขอพวกท่านจงทราบกาล
อันควรในบัดนี้เถิด. ท่านพระอานนท์รับคำท่านพระอนุรุทธะแล้ว เวลา
เช้านุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวรเข้าไปเมืองกุสินาราลำพังผู้เดียว.

แจ้งข่าวปรินิพพาน



[152] สมัยนั้น พวกเจ้ามัลละเมืองกุสินารา ประชุมกันที่สัณฐคาร
ด้วยเรื่องพระนิพพานนั้น. ลำดับนั้น ท่านพระอานนท์ไปยังสัณฐาคารของเจ้า
มัลละเมืองกุสินารา ได้บอกแก่เจ้ามัลละเมืองกุสินาราว่า ดูก่อนวาสิฏฐะทั้งหลาย