เมนู

เรื่องสุภัททปริพาชก



[138] สมัยนั้น สุภัททปริพาชก อาศัยอยู่ในเมืองกุสินารา. สุภัทท
ปริพาชกได้ฟังว่า พระสมณโคดม จักปรินิพพานในปัจฉิมยามแห่งราตรีนั้น
วันนี้. ลำดับนั้น สุภัททปริพาชกได้มีความดำริว่า เราได้ฟังคำนั้นของพวก
ปริพาชกผู้เฒ่าผู้แก่ ซึ่งเป็นอาจารย์และปาจารย์ กล่าวอยู่ว่า พระตถาคตอรหันต
สัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมอุบัติขึ้นในโลกในบางครั้งบางคราว พระสมณโคดมจัก
ปรินิพพานในปัจฉิมยามแห่งราตรีวันนี้แหละ อนึ่ง ธรรมอันเป็นที่สงสัยนี้
ซึ่งบังเกิดขึ้นแก่เราก็มีอยู่ เราเลื่อมใสในพระสมณโคดมอย่างนี้ว่า พระสมณ-
โคดม ย่อมสามารถเพื่อแสดงธรรมแก่เรา ที่เราจะพึงละธรรมอันเป็นที่สงสัย
นี้ได้.
ลำดับนั้น สุภัททปริพาชก เข้าไปหาท่านพระอานนท์ที่สาลวันอันเป็น
ที่แวะพักของพวกมัลลกษัตริย์ ครั้นเข้าไปหาแล้ว จึงได้กล่าวกะท่านพระ
อานนท์ว่า ท่านอานนท์ ข้าพเจ้าได้ฟังคำของพวกปริพาชก...ที่เราจะพึงละธรรม
อันเป็นที่สงสัยนี้ได้ ท่านอานนท์ ข้าพเจ้านั้น ขอได้เฝ้าพระสมณโคดม.
เมื่อสุภัททปริพาชกกล่าวอย่างนี้แล้ว ท่านพระอานนท์กล่าวว่า อย่าเลยสุภัททะ
อย่าเบียดเบียนพระตถาคตเลย พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเหน็ดเหนื่อย. แม้ครั้ง
ที่สอง...แม้ครั้งที่สามสุภัททปริพาชกก็กล่าวกะท่านพระอานนท์ว่า. . .
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงสดับคำเจรจาของท่านพระอานนท์กับสุภัทท
ปริพาชกแล้ว. จึงตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า อย่าเลย อานนท์ อย่าห้ามสุภัททะ
เลย สุภัททะจงได้เฝ้าพระตถาคตเถิด สุภัททะจักถามปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง
กะเรา มุ่งเพื่อความรู้ มิใช่มุ่งเพื่อความเบียดเบียน อนึ่ง เราอันสุภัททะถาม
แล้วจักพยากรณ์ข้อความแก่สุภัททนะนั้นได้ เขาจักรู้ข้อความนั้นได้โดยฉับพลัน.