เมนู

เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ อานนท์ เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์นี้แล พระตถาคต
อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเป็นถูปารหบุคคล.
ดูก่อนอานนท์ เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร ๆ พระปัจเจกสัม-
พุทธเจ้า จึงเป็นถูปารหบุคคล ชนเป็นอันมาก ยังจิตให้เลื่อมใสว่า นี้เป็น
สถูปของพระปัจเจกสัมพุทธเจ้านั้น ชนเหล่านั้นยังจิตให้เลื่อมใสในสถูปนั้นแล้ว
เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตกย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ อานนท์ เพราะ
อาศัยอำนาจประโยชน์นี้แล พระปัจเจกสัมพุทธาเจ้าจึงเป็นถูปารหบุคคล.
ดูก่อนอานนท์ เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร สาวกของพระ-
ตถาคตจึงเป็นถูปารหบุคคล. ชนเป็นอันมาก ยังจิตให้เลื่อมใสว่า นี้เป็นสถูป
สาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ชนเหล่านั้น
ยังจิตให้เลื่อมใสในสถูปนั้นแล้ว เบื้องหน้าแต่ตาย เพราะกายตาย ย่อมเข้าถึง
สุคติโลกสวรรค์ อานนท์ เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์นี้แล สาวกของพระ-
ตถาคตจึงเป็นถูปารหบุคคล.
ดูก่อนอานนท์ เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร พระเจ้าจักรพรรดิ
จึงเป็นถูปารหบุคคล. ชนเป็นอันมาก ยังจิตให้เลื่อมใสว่า นี้เป็นพระสถูป
ของพระธรรมราชา ผู้ทรงธรรมพระองค์นั้น ชนเหล่านั้น ยังจิตให้เลื่อมใส
ในพระสถูปนั้นแล้ว เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
อานนท์ เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์นี้แล พระเจ้าจักรพรรดิจึงเป็นถูปารห-
บุคคล อานนท์ ถูปารหบุคคล 4 เหล่านี้แล.

ประทานโอวาทแก่พระอานนท์



[135] ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์เข้าไปสู่วิหาร ยืนเหนี่ยวสลักเพชร
ร้องไห้อยู่ว่า เรายังเป็นเสขบุคคลมีกิจที่จะต้องทำอยู่ แต่พระศาสดาของเรา

ซึ่งเป็นผู้อนุเคราะห์เรา ก็จักปรินิพพานเสีย ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า
รับสั่งถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานนท์อยู่ที่ไหน. พวกภิกษุ
กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ท่านพระอานนท์นั่นเข้าไปสู่วิหาร
ยืนเหนี่ยวสลักเพชร ร้องไห้อยู่ว่าเรายังเป็นเสขบุคคลมีกิจที่จะต้องทำอยู่ แต่
พระศาสดาของเรา ซึ่งเป็นผู้อนุเคราะห์เราก็จักปรินิพพานเสีย. ลำดับนั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงรับสั่งกะภิกษุรูปหนึ่งว่า เธอจงไปเถิด ภิกษุ จงบอก
อานนท์ตามคำของเราว่า ท่านอานนท์พระศาสดารับสั่งหาท่าน. ภิกษุนั้นทูล
รับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว เข้าไปหาท่านพระอานนท์ ครั้นเข้า
ไปหาแล้ว บอกท่านพระอานนท์ว่า ท่านอานนท์ พระศาสดารับสั่งหาท่าน.
ท่านพระอานนท์รับคำภิกษุนั้นแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นเข้าไป
เฝ้าแล้ว ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
พระผู้มีพระภาคเจ้า รับสั่งกะท่านพระอานนท์ผู้นั่งเรียบร้อยแล้วว่า
อย่าเลย อานนท์ เธออย่าเศร้าโศกร่ำไรไปเลย เราได้บอกไว้ก่อนแล้วไม่ใช่หรือ
ว่า ความเป็นต่าง ๆ ความพลัดพราก ความเป็นอย่างอื่นจากของรักของชอบ
ใจทั้งสิ้นต้องมี ข้อนั้นจะหาได้ในของรักของชอบใจนี้แต่ที่ไหนเล่า สิ่งใดเกิด
แล้ว มีแล้ว ปัจจัยปรุงแต่งแล้ว มีความทำลายเป็นธรรมดา ความปรารถนา
ว่า ขอสิ่งนั้นอย่าทำลายไปเลยดังนี้ นั่นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ อานนท์ เธอ
ได้เป็นอุปัฏฐากตถาคต ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อันประกอบด้วย
เมตตา เป็นประโยชน์เกื้อกูล เป็นความสุขไม่มีสอง หาประมาณมิได้มาช้านาน
เธอได้กระทำบุญไว้แล้ว อานนท์ จงประกอบความเพียรเถิด เธอจักเป็นผู้ไม่
มีอาสวะโดยฉับพลัน.

ตรัสสรรเสริญพระอานนท์



ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย แม้พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายใด ได้มีแล้ว.