เมนู

ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ เหตุไม่
เคยมี ก็มีมาแล้ว พระฉวีวรรณของพระตถาคตบริสุทธิ์ผุดผ่องยิ่งนัก คู่ผ้า
เนื้อเกลี้ยงมีสีดังทองสิงคี ซึ่งเป็นผ้าทรงนี้ ข้าพระองค์น้อมเข้าไปสู่พระกายของ
พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ย่อมปรากฏดังถ่านในที่ปราศจากเปลวฉะนั้น.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ข้อนี้เป็นอย่างนั้น อานนท์ในกาลทั้ง 2
กายของตถาคต ย่อมบริสุทธิ์ ฉวีวรรณผุดผ่องยิ่งนัก ในกาลทั้ง 2 เป็นไฉน
คือ ในเวลาราตรีที่ตถาคตตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ 1 ในเวลาราตรีที่
ตถาคตปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนีพพานธาตุ 1 ในกาลทั้ง 2 นี้แล กายของ
ตถาคต ย่อมบริสุทธิ์ ฉวีวรรณผุดผ่องยิ่งนัก ดูก่อนอานนท์ ในปัจฉิมยามแห่ง
ราตรีวันนี้แล ตถาคตจักปรินิพพานในระหว่างไม้สาละทั้งคู่ ในสาลวันแห่ง
มัลลกษัตริย์ทั้งหลาย เป็นที่แวะเวียนไป ณ เมืองกุสินารา มาเถิด อานนท์ เรา
จักไปยังแม่น้ำกกุธานที. ท่านพระอานนท์ทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าแล้ว.
[123] ปุกกุสะนำคู่ผ้าเนื้อเกลี้ยงมีสีดังทองสิงคี
เข้าไปถวาย พระศาสดาทรงครองคู่ผ้านั้น
แล้วมีวรรณดังทอง งดงามแล้ว.


แม่น้ำกกุธานที



[124] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ไป
ยังแม่น้ำกกุธานที เสด็จลงสู่แม่น้ำกกุธานที ทรงสรงแล้ว ทรงดื่มแล้ว เสด็จขึ้น
เสด็จไปยังอัมพวันตรัสกะท่านพระจุนทกะว่า ดูก่อนจุนทกะ ท่านจงช่วยปูผ้า
สังฆาฏิพับเป็น 4 ชั้นให้เรา เราเหนื่อยนัก จักนอน. ท่านพระจุนทกะทูลรับ
พระดำรัสของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ปูผ้าสังฆาฏิพับเป็น 4 ชั้น. ลำดับนั้น