เมนู

ยังผูกทุ่นกันอยู่ แต่ชนทั้งหลายผู้มีปัญญา
ข้ามกันไปไม่ต้องผูกทุ่น(1)
จบภาณวารที่ 1(2)

โกฏิคาม



[86] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า
มาเถิด อานนท์ เราจักเข้าไปหมู่บ้านโกฏิคามกันเถิด ท่านพระอานนท์กราบทูล
รับแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า พระเจ้าข้า.
ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่เสด็จ
ดำเนินถึงหมู่บ้านโกฏิคามนั้นแล้ว เล่ากันว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จอยู่ใน
หมู่บ้านโกฏิคามนั้น ในหมู่บ้านโกฏิคามนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะ
ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะมิได้ตรัสรู้ เพราะมิได้แทงตลอด
อริยสัจ 4 เราตถาคตและเธอทั้งหลายด้วย จึงโลดแล่นไป เร่ร่อนไป
ตลอดกาลยาวนานนี้ อย่างนี้ อริยสัจ 4 เป็นไฉน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เพราะมิได้ตรัสรู้ เพราะมิได้แทงตลอดอริยสัจ คือ ทุกข์ เราตถาคตและเธอ
ทั้งหลายด้วย จึงโลดแล่นไป เร่ร่อนไป ตลอดกาลยาวนานนี้ อย่างนี้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะมิได้ตรัสรู้ เพราะมิได้แทงตลอดอริยสัจ คือ
เหตุเป็นแดนเกิดแห่งทุกข์ เราตถาคตและเธอทั้งหลายด้วย จึงโลดแล่นไป
เร่ร่อนไปตลอดกาลยาวนานนี้ อย่างนี้. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะมิได้ตรัสรู้
เพราะมิได้แทงตลอดอริยสัจ คือ ความดับทุกข์ เราตถาคตและเธอทั้งหลาย
1. ดู- ขุ อุ. 25/222 ด้วย
2. ภาณวารแปลว่า วาระแห่งการสวด ตามธรรมดา 1 ภาณวาร ประกอบด้วยคาถา 250 คาถา
1 คาถา มี 4 บาท มี 8 อักษร รวม 1 คาถา มี 32 อักษร เพราะฉะนั้น 250 คาถา
จึงเท่ากับ 8,000 อักษร (หรือ 8,000 พยางค์) เป็น 1 ภาณวาร.