เมนู

[194] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนพราหมณ์ ข้อเป็นอย่าง
นั้น ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ปัญญาอันศีลชำระให้บริสุทธิ์ ศีลอันปัญญาชำระ
ให้บริสุทธิ์ ศีลมีในบุคคลใด ปัญญาก็มีในบุคคลนั้น ปัญญามีในบุคคลใด
ศีลก็มีในบุคคลนั้น ปัญญาเป็นของบุคคลผู้มีศีล ศีลเป็นของผู้มีปัญญา
และนักปราชญ์ย่อมกล่าวศีลกับปัญญาว่าเป็นยอดในโลก เหมือนบุคคล
ล้างมือด้วยมือ หรือล้างเท้าด้วยฉะนั้น ดูก่อนพราหมณ์ ศีลนั้นเป็นไฉน
ปัญญานั้นเป็นไฉน. พราหมณ์โสณทัณฑะกราบทูลว่า ข้าแต่พระโคดมผู้
เจริญ พวกข้าพระองค์ มีความรู้เท่านี้เอง เมื่อเนื้อความมีเช่นไร ขอเนื้อ
ความแห่งภาษิตนี้ จงแจ่มแจ้งแก่พระโคดมผู้เจริญเองเถิด.
[195] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนพราหมณ์ ถ้าอย่างนั้น
ท่านจงฟัง จงตั้งใจให้ดี เราจักกล่าว. พราหมณ์โสณทัณฑะรับสนอง
พระพุทธพจน์แล้ว. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้กะพราหมณ์
โสณทัณฑะว่า ดูก่อนพราหมณ์ พระตถาคตอุบัติขึ้นในโลกนี้เป็นพระอรหันต์
ตรัสรู้เองโดยชอบ ฯ ล ฯ (พึงดูพิสดารในสามัญญผลสูตร) ดูก่อนพราหมณ์
ก็ภิกษุเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีลอย่างนี้แล. แม้ข้อนี้แล คือศีลนั้น. เข้าถึง
ปฐมฌานอยู่. เข้าถึงทุติยฌานอยู่. เข้าถึงตติฌานอยู่. เข้าถึงจตุตถฌาน
อยู่ ฯ ล ฯ เธอนำเฉพาะน้อมเฉพาะจิตเพื่อญาณทัสสนะ ฯ ล ฯ แม้ข้อนี้จัด
อยู่ในปัญญา ของเธอ ฯ ล ฯ เธอย่อมรู้ชัดว่า กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้
มิได้มี. แม้ข้อนี้จัดอยู่ในปัญญาของเธอ. ดูก่อนพราหมณ์ นี้แลคือปัญญานั้น.

โสณทัณฑพราหมณ์แสดงตนเป็นอุบาสก


[196] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว พราหมณ์โสณ-
ทัณฑะได้กราบทูลคำนี้กะพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ

ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์
แจ่มแจ้งนัก เปรียบเหมือนหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่
คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืด ด้วยคิดว่า ผู้มีจักษุจักเห็นรูป ดังนี้
ฉันใด พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย ก็ฉันนั้น
เหมือนกัน ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้าพระองค์ขอถึงพระโคดมผู้เจริญ
พร้อมทั้งพระธรรม และพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง ขอพระโคดมผู้เจริญจงทรงจำ
ข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะ อย่างมอบกายถวายชีวิตตั้งแต่วันนี้
เป็นต้นไป และขอพระโคดมผู้เจริญทรงรับภัตตาหารของข้าพระองค์ เพื่อ
เสวยในวันพรุ่งนี้ พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับด้วย
ดุษณีภาพแล้ว ลำดับนั้น พราหมณ์โสณทัณฑะทราบว่า พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าทรงรับนิมนต์แล้ว ลุกจากอาสนะ ถวายอภิวาทกระทำประทักษิณ
แล้วกลับ.

โสณทัณฑพราหมณ์ทูลความประสงค์ของตน


[197] ครั้นล่วงราตรีนั้นแล้ว พราหมณ์โสณทัณฑะได้ตกแต่งของ
เคี้ยวของฉันอันประณีต ในนิเวศน์ของตนเสร็จแล้วให้คนไปกราบทูลภัตต-
กาล แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ถึงเวลาแล้ว
ภัตตาหารเสร็จแล้ว. ครั้งนั้นเป็นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงนุ่งแล้ว
ทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปยังนิเวศน์ของพราหมณ์โสณทัณฑะ
พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ แล้วประทับนั่ง ณ อาสนะที่เขาจัดไว้. พราหมณ์
โสณทัณฑะ ได้อังคาสภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ด้วยของเคี้ยว
ของฉันอันประณีต ให้อิ่มหนำด้วยมือของตนเสร็จแล้ว.
[198] ครั้งนั้น พราหมณ์โสณทัณฑะทราบแล้ว พระผู้มีพระภาค-
เจ้าเสวยเสร็จแล้ว วางพระหัตถ์จากบาตรแล้ว จึงถือเอาอาสนะต่ำกว่า นั่ง