เมนู

พัสตร์ ออกบวชเป็นบรรพชิต สมัยต่อมา เขาละกองโภคสมบัติน้อยใหญ่
ละเครือญาติน้อยใหญ่ ปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ ออก
บวชเป็นบรรพชิต เมื่อบวชแล้ว สำรวมระวังในพระปาติโมกข์ ถึงพร้อม
ด้วยมรรยาทและโคจร มีปรกติเห็นภัยในโทษเพียงเล็กน้อย สมาทาน
ศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ประกอบด้วยกายกรรมวจีกรรมที่เป็นกุศล
มีอาชีพบริสุทธิ์ ถึงพร้อมด้วยศีล คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย
ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ เป็นผู้สันโดษ.

จุลศีล


(103) มหาบพิตร อย่างไรภิกษุจึงชื่อว่าเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล
1. ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ละการฆ่าสัตว์ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์
วางไม้ วางมีด มีความละอาย มีความเอ็นดู มีความกรุณาหวังประโยชน์
แก่สัตว์ทั้งปวงอยู่ แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
2. เธอละการลักทรัพย์ เว้นขาดจากการลักทรัพย์ รับแต่ของที่
เขาให้ ต้องการแต่ของที่เขาให้ ไม่ประพฤติตนเป็นขโมย เป็นผู้สะอาดอยู่
แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
3. เธอละกรรมเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ ประพฤติพรหมจรรย์
ประพฤติห่างไกล เว้นขาดจากเมถุน อันเป็นเรื่องของชาวบ้าน แม้ข้อนี้ก็
เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
4. เธอละการพูดเท็จ เว้นขาดจากการพูดเท็จ พูดแต่คำจริง
ดำรงคำสัตย์ มีถ้อยคำเป็นหลักฐาน ควรเชื่อได้ ไม่พูดลวงโลก แม้
ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

5. เธอละคำส่อเสียด เว้นขาดจากคำส่อเสียด ฟังจากข้างนี้แล้ว
ไม่ไปบอกข้างโน้น เพื่อให้คนหมู่นี้แตกร้าวกัน หรือฟังจากข้างโน้นแล้ว
ไม่มาบอกข้างนี้ เพื่อให้คนหมู่โน้นแตกร้าวกัน สมานคนที่แตกร้าวกัน
แล้วบ้าง ส่งเสริมคนที่พร้อมเพรียงกันแล้วบ้าง ชอบคนผู้พร้อมเพรียงกัน
ยินดีคนผู้พร้อมเพรียงกัน เพลิดเพลินคนผู้พร้อมเพรียงกัน กล่าวแต่คำ
ที่ทำให้คนพร้อมเพรียงกัน แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
6. เธอละคำหยาบ เว้นขาดจากคำหยาบ กล่าวแต่คำที่ไม่มีโทษ
เพราะหู ชวนให้รัก จักใจ เป็นของชาวเมือง คนส่วนมากรักใคร่ พอใจ
แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
7. เธอละคำเพ้อเจ้อ เว้นขาดจากคำเพ้อเจ้อ พูดถูกกาล พูดจริง
พูดเป็นอรรถ พูดเป็นธรรม พูดเป็นวินัย พูดมีหลัก มีที่อ้าง มีที่สุด
ประกอบด้วยประโยชน์ โดยกาลอันควร แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอ
ประการหนึ่ง.
8. เธอเว้นขาดจากการพรากพืชคาม และภูตคาม.
9. เธอฉันหนเดียว เว้นการฉันในราตรี งดเว้นการฉันในเวลา
วิกาล.
10. เธอเว้นขาดจากการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี และ
ดูการเล่นอันเป็นข้าศึกแก่กุศล.
11. เธอเว้นขาดจากการทัดทรงประดับและตกแต่งร่างกาย ด้วย
ดอกไม้ ของหอม และเครื่องประเทืองผิว อันเป็นฐานแห่งการแต่งตัว.
12. เธอเว้นขาดจากการนั่งนอนบนที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่.
13. เธอเว้นขาดจากการรับทองและเงิน.

14. เธอเว้นขาดจากการรับธัญญาหารดิบ.
15. เธอเว้นขาดจากการรับเนื้อดิบ.
16. เธอเว้นขาดจากการรับสตรี และกุมารี.
17. เธอเว้นขาดจากการรับทาสี และทาส.
18. เธอเว้นขาดจากการรับแพะ และแกะ.
19. เธอเว้นขาดจากการรับไก่ เละสุกร.
20. เธอเว้นขาดจากการรับช้าง โค ม้า และลา.
21. เธอเว้นขาดจากการรับไร่นา และที่ดิน.
22. เธอเว้นขาดจากการประกอบทูตกรรม และการรับใช้.
23. เธอเว้นขาดจากการซื้อ การขาย.
24. เธอเว้นขาดจากการโกงด้วยตาชั่ง การโกงด้วยของปลอม
และการโกงด้วยเครื่องตวงวัด.
25. เธอเว้นขาดจากการรับสินบน การล่อลวง และการตลบ-
ตะแลง.
26. เธอเว้นขาดจากการตัด การฆ่า การจองจำ การตีชิง การ
ปล้น และกรรโชก แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.
จบจุลศีล

มัชฌิมศีล


(104) 1. ภิกษุเว้นขาดจากการพรากพืชคาม และภูตคาม เช่น
อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธา
แล้ว ยังประกอบการพรากพืชคามและภูตคามเห็นปานนี้ คือพืชเกิดแต่