เมนู

สมุฏฐาน
ภิกษุไม่มีความจงใจต้องอาบัติเป็นต้น


[1,230] มีอยู่ อาบัติ ภิกษุไม่มีความจงใจต้อง มีความจงใจออก
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุมีความจงใจต้อง ไม่มีความจงใจออก
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุไม่มีความจงใจต้อง ไม่มีความจงใจออก
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุมีความจงใจต้อง มีความจงใจออก
มีอยู่ อาบัติ ภิกขุมีจิตเป็นกุศลต้อง มีจิตเป็นกุศลออก
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุมีจิตเป็นกุศลต้อง มีจิตเป็นอกุศลออก
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุมีจิตเป็นกุศลต้อง มีจิตเป็นอัพยาฤตออก
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุมีจิตเป็นอกุศลต้อง มีจิตเป็นกุศลออก
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุมีจิตเป็นอกุศลต้อง มีจิตเป็นอกุศลออก
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุมีจิตเป็นอกุศลต้อง มีจิตเป็นอัพยากฤตออก
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุมีจิตเป็นอัพยากฤตต้อง มีจิตเป็นกุศลออก
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุมีจิตเป็นอัพยากฤตต้อง มีจิตเป็นอกุศลออก
มีอยู่ อาบัติ ภิกษุมีจิตเป็นอัพยากฤตต้อง มีจิตเป็นอัพยากฤตออก.

ปาราชิก 4


[1,231] ถามว่า ปาราชิกสิกขาบทที่ 1 เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร
ตอบว่า ปาราชิกสิกขาบทที่ 1 เกิดด้วยสมุฏฐานอันหนึ่ง คือ เกิด
แต่กายกับจิต มิใช่วาจา

ถ. ปาราชิกสิกขาบทที่ 2 เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร
ต. ปาราชิกสิกขาบทที่ 2 เกิดด้วยสมุฏฐาน 3 คือ บางทีเกิดแต่
กายกับจิต มิใช่วาจา 1 บางทีเกิดแต่วาจากับจิต มิใช่กาย 1 บางทีเกิดแต่
กาย วาจาและจิต 1
ถ. ปาราชิกสิกขาบทที่ 3 เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร
ต. ปาราชิกสิกขาบทที่ 3 เกิดด้วยสมุฏฐาน 3 คือ บางทีเกิดแต่
กายกับจิต มิใช่วาจา 1 บางทีเกิดแต่วาจากับจิต มิใช่กาย 1 บางทีเกิดแต่
กาย วาจาและจิต 1
ถ. ปาราชิกสิกขาบทที่ 4 เกิดด้วยสมุกฐานเท่าไร
ต. ปาราชิกสิกขาบทที่ 4 เกิดด้วยสมุฏฐาน 3 คือ บางทีเกิดแต่
กายกับจิต มิใช่วาจา 1 บางทีเกิดแต่วาจากับจิต มิใช่กาย 1 บางทีเกิดแต่
กาย วาจาและจิต 1.
ปาราชิก 4 สิกขาบท จบ

สังฆาทิเสส 13


[1,232] ถามว่า สังฆาทิเสสของภิกษุผู้พยายามปล่อยอสุจิ เกิดด้วย
สมุฏฐานเท่าไร
ตอบว่า สังฆาทิเสสของภิกษุผู้พยายามปล่อยอสุจิ เกิดด้วยสมุฏฐาน
อันหนึ่ง คือ เกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา
ถ. สังฆาทิเสสของภิกษุผู้ถึงความเคล้าคลึงด้วยกายกับมาตุคาม เกิด
ด้วยสมุฏฐานเท่าไร