เมนู

ภิกษุแสดงธรรมว่า ธรรม ชื่อว่า ย่อมเลื่อมใสในสถานะควรเลื่อมใส. . .
ภิกษุแสดงอาบัติชั่วหยาบว่า อาบัติชั่วหยาบ ชื่อว่า ย่อมเลื่อมใสใน
สถานะควรเลื่อมใส
ภิกษุแสดงอาบัติไม่ชั่วหยาบว่า อาบัติไม่ชั่วหยาบ ชื่อว่า ย่อมเลื่อมใส
ในสถานะควรเลื่อมใส
อย่างนี้ ภิกษุชื่อว่า ย่อมเลื่อมใสในสถานะควรเลื่อมใส.

ว่าด้วยดูหมิ่นพรรคพวกอื่น


[1,112] ถามว่า อย่างไร ชื่อว่า ย่อมดูหมิ่นพรรคพวกอื่นด้วย
เข้าใจว่า เราได้พรรคพวกแล้ว
ตอบว่า ภิกษุบางรูปในพระธรรนวินัยนี้ เป็นผู้ได้พรรคพวก ได้
บริวาร มีพรรคพวก มีญาติ คิดว่า ผู้นี้ไม่ได้พรรคพวก ไม่ได้บริวาร ไม่
มีพรรคพวก ไม่มีญาติ จึงดูหมิ่นภิกษุนั้น ย่อมแสดงอธรรมว่า ธรรม
แสดงธรรมว่า อธรรม. . . แสดงอาบัติชั่วหยาบว่า อาบัติไม่ชั่วหยาบ แสดง
อาบัติไม่ชั่วหยาบว่า อาบัติชั่วหยาบ
อย่างนี้ ภิกษุชื่อว่า ดูหมิ่นพรรคพวกอื่น ด้วยเข้าใจว่า เราได้พรรค
พวกแล้ว.

ว่าด้วยดูหมิ่นภิกษุมีสุตะน้อย


[1,113] ถามว่า อย่างไร ชื่อว่า ดูหมิ่นท่านผู้มีสุตะน้อยด้วยเข้าใจ
ว่า เรามีสุตะมาก

ตอบว่า ภิกษุบางรูปในพระธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีสุตะมาก ทรงจำสุตะ
สั่งสมสุตะ ดูหมิ่นภิกษุนั้นว่า ท่านผู้นี้มีสุตะน้อย มีอาคมน้อย ทรงจำไว้ได้
น้อย ย่อมแสดงอธรรมว่า ธรรม แสดงธรรมว่า อธรรม. . . แสดงอาบัติ
ชั่วหยาบว่า อาบัติไม่ชั่วหยาบ แสดงอาบัติไม่ชั่วหยาบว่า อาบัติชั่วหยาบ
อย่างนี้ ภิกษุชื่อว่าดูหมิ่น ภิกษุมีสุตะน้อย ด้วยเข้าใจว่า เรามีสุตะ
มาก.

ว่าด้วยดูหมิ่นภิกษุผู้อ่อนกว่า


[1,118] ถามว่า อย่างไร ชื่อว่า ดูหมิ่นภิกษุผู้อ่อนกว่า ด้วยเข้า
ใจว่า เราเป็นผู้แก่กว่า
ตอบว่า ภิกษุบางรูปในพระธรรมวินัยนี้ เป็นเถระ รู้ราตรีบวชนาน
ดูหมิ่นภิกษุนั้นว่า ท่านผู้นี้เป็นผู้อ่อนกว่า ไม่มีชื่อเสียง มีสุตะน้อย ไม่รู้
พระนิพพานอันปัจจัยอะไรทำไม่ได้ ถ้อยคำของผู้นี้จักทำอะไรไม่ได้ ย่อมแสดง
อธรรมว่า ธรรม แสดงธรรมว่า อธรรม. . . แสดงอาบัติชั่วหยาบว่า อาบัติ
ไม่ชั่วหยาบ แสดงอาบัติไม่ชั่วหยาบว่า อาบัติชั่วหยาบ
อย่างนี้ ภิกษุชื่อว่า ดูหมิ่นภิกษุผู้อ่อนกว่าด้วยเข้าใจว่า เราเป็นผู้
แก่กว่า.

ว่าด้วยไม่พูดเรื่องที่ยังไม่มาถึง


[1,115] คำว่า ไม่พูดเรื่องที่ยังไม่มาถึง นั้น คือ ไม่เก็บเอา
คำพูดที่ไม่เข้าประเด็น