เมนู

ต. อาบัติเหล่านั้น จัดเป็นวิบัติ 2 บรรดาวิบัติ 4 คือ บางทีเป็น
ศีลวิบัติ บางทีเป็นอาจารวิบัติ เป็นอาปัตตาธิกรณ์ บรรดาอธิกรณ์ 4
สงเคราะห์ด้วยกองอาบัติ 4 บรรดากองอาบัติ 7 คือ บางทีด้วยกองอาบัติ
ปาราชิก บางทีด้วยกองอาบัติถุลลัจจัย บางทีด้วยกองอาบัติปาจิตตีย์ บางที
ด้วยกองอาบัติทุกกฏ เกิดด้วยสมุฏฐาน 1 บรรดาสมุฏฐานอาบัติ 6 คือ
เกิดแต่กาย วาจา และจิต อาบัติที่ไม่มีส่วนเหลือ ระงับด้วยอธิกรณ์อะไรไม่ได้
ระงับในฐานะอะไรไม่ได้ ระงับด้วยสมถะอะไรไม่ได้ อาบัติเบา ระงับด้วย
อธิกรณ์ 1 คือ กิจจาธิกรณ์ระงับในฐานะ 3 คือ ท่ามกลางสงฆ์ 1 ท่ามกลาง
คณะ 1 สำนักบุคคล 1 ระงับด้วยสมถะ 3 คือ บางทีด้วยสัมมุขาวินัย 1
ด้วยปฏิญญาตกรณะ 1 บางทีด้วยสัมมุขาวินัยกับติณวัตถารกะ 1.

ว่าด้วยกิจจาธิกรณ์เป็นอาบัติหรือมิใช่อาบัติเป็นต้น


[1,053] ถามว่า กิจจาธิกรณ์ เป็นอาบัติหรือมิใช่อาบัติ
ตอบว่า กิจจาธิกรณ์ มิใช่อาบัติ
ถ. ก็เพราะกิจจาธิกรณ์เป็นปัจจัย ภิกษุต้องอาบัติ หรือ
ต. ถูกแล้ว เพราะกิจจาธิกรณ์เป็นปัจจัย ภิกษุต้องอาบัติ
ถ. เพราะกิจจาธิกรณ์เป็นปัจจัย ภิกษุต้องอาบัติเท่าไร่
ต. เพราะกิจจาธิกรณ์เป็นปัจจัย ภิกษุต้องอาบัติ 5 ตัว คือ ภิกษุณี
ที่ประพฤติตามภิกษุผู้ถูกยกวัตร ไม่สละเพราะสวดประกาศครบ 3 จบ จบญัตติ
เป็นทุกกฏ 1 จบกรรมวาจาสองครั้ง เป็นถุลลัจจัย 1 จบกรรมวาจาครั้งสุด
ต้องอาบัติปาราชิก 1 ภิกษุพระพฤติตามภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ไม่สละเพราะสวด

ประกาศครบ 3 จบ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส 1 ภิกษุไม่สละทิฏฐิลามกเพราะ
สวดประกาศครบ 3 จบ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ 1 เพราะกิจจาธิกรณ์เป็นปัจจัย
ต้องอาบัติ 5 ตัวนี้
ถ. อาบัติเหล่านั้นจัดเป็นวิบัติเท่าไร บรรดาวิบัติ 4 จัดเป็นอธิกรณ์
อะไร บรรดาอธิกรณ์ 4 สงเคราะห์ด้วยกองอาบัติเท่าไร บรรดากองอาบัติ 7
เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร บรรดาสมุฏฐานอาบัติ 6 ระงับด้วยอธิกรณ์เท่าไร
ในฐานะเท่าไร ด้วยสมถะเท่าไร
ต. อาบัติเหล่านั้นจัดเป็นวิบัติ 2 บรรดาวิบัติ 4 คือ บางทีเป็น
ศีลวิบัติ บางทีเป็นอาจารวิบัติ จัดเป็นอาปัตตาธิกรณ์ บรรดาอธิกรณ์ 4
สงเคราะห์ด้วยกองอาบัติ 5 บรรดากองอาบัติ 7 คือ บางทีด้วยกองอาบัติ-
ปาราชิก บางทีด้วยกองอาบัติสังฆาทิเสส บางทีด้วยกองอาบัติถุลลัจจัย บางที
ด้วยกองอาบัติปาจิตตีย์ บางทีด้วยกองอาบัติทุกกฏ เกิดด้วยสมุฏฐาน 1 บรรดา
สมุฏฐานอาบัติ 6 คือ เกิดแต่กาย วาจา และจิต อาบัติทีไม่มีส่วนเหลือ
ระงับด้วยอธิกรณ์อะไรไม่ได้ ระงับในฐานะอะไรไม่ได้ ระงับด้วยสมถะอะไร
ไม่ได้ อาบัติหนัก ระงับด้วยอธิกรณ์ 1 คือ กิจจาธิกรณ์ ระงับในฐานะ 1
คือ ท่ามกลางสงฆ์ ระงับด้วยสมถะ 2 คือ สัมมุขาวินัย 1 ปฏิญญาตกรณะ 1
อาบัติเบา ระงับด้วยอธิกรณ์ 1 คือ กิจจาธิกรณ์ ระงับใน 3 ฐานะ คือ
ท่ามกลางสงฆ์ 1 ท่ามกลางคณะ 1 สำนักบุคคล 1 ระงับด้วยสมถะ 3 คือ
บางทีด้วยสัมมุขาวินัย 1 ด้วยปฏิญญาตกรณะ 1 บางทีด้วยสัมมุขาวินัยกับ
ติณวัตถารกะ 1.

อธิบายวิวาทาธิกรณ์


[1,054] ถามว่า วิวาทาธิกรณ์ มีอนุวาทาธิกรณ์ อาปัตตาธิกรณ์
กิจจาธิกรณ์ ไหม
ตอบว่า วิวาทาธิกรณ์ ไม่มีอนุวาทาธิกรณ์ อาปัตตาธิกรณ์ กิจจา-
ธิกรณ์ แต่เพราะวิวาทาธิกรณ์เป็นปัจจัย อนุวาทาธิกรณ์ อาปัตตาธิกรณ์
กิจจาธิกรณ์ย่อมมีได้ เปรียบเหมือนอะไร เปรียบเหมือน ภิกษุทั้งหลายใน
พระธรรมวินัยนี้ วิวาทกันว่า
นี้ เป็นธรรม นี้ ไม่เป็นธรรม
นี้ เป็นวินัย นี้ ไม่เป็นวินัย
นี้ พระตถาคตตรัสภาษิตไว้ นี้ พระตถาคตไม่ได้ตรัสภาษิตไว้
นี้ พระตถาคตทรงประพฤติมา นี้ พระตถาคตไม่ได้ทรงประพฤติมา
นี้ พระตถาคตทรงบัญญัติไว้ นี้ พระตถาคตไม่ได้ทรงบัญญัติไว้
นี้ เป็นอาบัติ นี้ ไม่เป็นอาบัติ
นี้ เป็นอาบัติเบา นี้ เป็นอาบัติหนัก
นี้ เป็นอาบัติมีส่วนเหลือ นี้ เป็นอาบัติหาส่วนเหลือมิได้
นี้ เป็นอาบัติชั่วหยาบ นี้ เป็นอาบัติไม่ชั่วหยาบ
ความบาดหมาง ความทะเลาะ ความแก่งแย่ง ความวิวาท การกล่าว
ต่างกัน การกล่าวโดยประการอื่น การพูดเพื่อความกลัดกลุ้ม ความหมายมั่น
ในเรื่องนั้น อันใด นี้ เรียกว่าวิวาทาธิกรณ์ สงฆ์วิวาทกันในวิวาทาธิกรณ์
จัดเป็นวิวาทาธิกรณ์ เมื่อวิวาทกัน ย่อมโจท จัดเป็นอนุวาทาธิกรณ์ เมื่อโจท
ย่อมต้องอาบัติ จัดเป็นอาปัตตาธิกรณ์ สงฆ์ทำกรรมตามอาบัตินั้น จัดเป็น
กิจจาธิกรณ์ เพราะวิวาทาธิกรณ์เป็นปัจจัย อนุวาทาธิกรณ์ อาปัตตาธิกรณ์
กิจจาธิกรณ์ ย่อมมีอย่างนี้.